พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงยังไม่ได้เสนอเรื่องการขยายสัมปทาน 30 ปีให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงคูคต-สะพานใหม่-หมอชิต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังจากได้นำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมากต้องไปดำเนินการและยังไม่กำหนดได้ว่าจะเข้าที่ประชุม ครม.เมื่อใด
“มีข้อคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆจำนวนมาก จึงต้องรับฟังก่อนนำเข้า ครม. เรื่องนี้จะไม่กระทบกับการก่อสร้างการเดินรถ ที่มีสัญญาเดินรถอยู่ เพียงแต่ปัญหาสำคัญคือ เมื่อกรุงเทพมหานคร รับงานระบบโครงสร้างจะทำอย่างไรกับหนี้ที่จะตามมา และการทำให้รถเดินได้ ต้องมีการวางระบบที่ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย กรุงเทพฯจะบริหารหนี้อย่างไร เพราะการดำเนินการต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด”
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ย.นี้ รฟท.จะรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา มูลค่า 179,000 ล้านบาท และจะเสนอผลการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน สัญญาที่ 4-6 งานโยธาสำหรับช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กิโลเมตร ที่มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ชนะการประมูล ราคาต่ำสุด 9,429 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 16% ให้ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท.พิจารณา.