คลังปลื้ม! “ชิม ช้อป ใช้” ดันยอดใช้จ่ายสะพัดกว่าหมื่นล้านบาท ร้านค้าเข้าร่วมโครงการยอดขายเพิ่ม 100% ชี้ชัดโครงการนี้กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ด้าน “สรรพากร” ยันไม่เอาข้อมูลประชาชน-ร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการมาเก็บภาษีย้อนหลังแน่นอน เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ชิม ช้อป ใช้” ปัจจุบันมียอดซื้อขายทั้งสิ้น 10,667 ล้านบาท แบ่งเป็น กระเป๋าเงินช่องที่ 1 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” วงเงิน 1,000 บาท มียอดใช้จ่ายแล้ว 10,194.3 ล้านบาท และกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ซึ่งจะคืนเงินให้ (แคชแบ็ก) 15-20% สูงสุดไม่เกิน 8,500 บาท วงเงินรวม 50,000 บาท มียอดใช้จ่ายแล้ว 473 ล้านบาท ทั้งนี้ หากแบ่งเป็นยอดใช้จ่ายแต่ละประเภท พบว่า ร้านชิม เช่น ร้านอาหาร เป็นต้น 1,460.1 ล้านบาท, ร้านช้อป อาทิ ร้านค้าชุมชน ร้านโอทอป 6,171.7 ล้านบาท, ร้านใช้ อาทิ ที่พัก 141.7 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 2,893.8 ล้านบาท
“ในช่วงวันหยุดยาววันที่ 2-5 พ.ย.62 คาดจะมีประชาชนจับจ่ายซื้อของมากขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ยอดใช้จ่ายในโครงการชิม ช้อป ใช้ ผ่านแอปเป๋าตังทั้ง 2 กระเป๋าเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนหน้านี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ร้านค้ารายย่อยและวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% และบางพื้นที่ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 100% แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้สามารถนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง”
ด้านนางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า “ชิม ช้อป ใช้” ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 มีประชาชนร่วมลงทะเบียน 13 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการหยุดยาว 4 วัน ช่วงประชุมสุดยอดอาเซียนวันที่ 2-4 พ.ย.62 แม้ประชาชนยังเน้นใช้เงินผ่านกระเป๋า 1 มากกว่ากระเป๋า 2 เพราะมองว่าการใช้จ่ายกระเป๋าช่องที่ 2 ยังยุ่งยาก ซึ่งปัจจุบันธนาคารกรุงไทยเปิดให้เติมเงินผ่านตู้ ATM ได้ทุกสาขาเพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว
ส่วนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ยืนยันว่ากรมสรรพากรไม่ได้ใช้ข้อมูลของผู้ที่ลงทะเบียน ทั้งในส่วนของร้านค้า และประชาชนในโครงการชิม ช้อป ใช้ มาใช้ในการจัดเก็บภาษีอย่างที่กังวลกัน เพราะกรมมีข้อมูลของผู้เสียภาษีในระบบอยู่แล้ว และมีวิธีดำเนินการกับคนตั้งใจหลบเลี่ยงภาษี หรืออยู่นอกระบบด้วยระบบการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรม สรรพากรทั่วประเทศ เร่งประชาสัมพันธ์ให้คนที่เข้าร่วมโครงการชิม ช้อป ใช้ เข้าใจตรงกันว่า กรมจะไม่นำข้อมูลการซื้อขาย หรือการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันต่างๆไปใช้เป็นข้อมูลจัดเก็บภาษีอย่างแน่นอน จึงอยากให้ประชาชนไม่ต้องกังวล
“ส่วนเรื่องที่ร้านค้ากังวลว่าจะถูกกรมตรวจสอบบัญชีธนาคาร หากมีการโอนเงินเข้าบัญชีถึง 3,000 ครั้งต่อปี ตามที่กฎหมายภาษีอี-เพย์เมนต์ระบุไว้ว่า บัญชีที่มียอดฝากหรือโอนเงินเข้าทุกบัญชี 3,000 ครั้งต่อปีขึ้นไป ธนาคารจะต้องส่งข้อมูลการทำธุรกรรมทุกบัญชีให้กรมนั้น ขณะนี้ร่างประกาศกฎกระทรวงการคลังในเรื่องดังกล่าว ยังอยู่ในการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้น ประกาศนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ จึงไม่มีการตรวจสอบบัญชีของร้านค้าจากยอดการโอนในโครงการนี้แน่นอน”.