ลุ้นผล SMS สิทธิ์ 1 ล้านคนแรกชิมช้อปใช้ รับ 1 พัน จังหวัดภาคกลางสุดฮิต

คึกคักไม่น้อย ภายหลังเว็บชิมช้อปใช้.com เปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ 1,000 บาท ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา จนย่างเข้าวันที่ 4 เมื่อวันที่ 26 ก.ย. มีประชาชนลงทะเบียนอย่างล้นหลามจนเต็มโควตาตั้งแต่เช้าตรู่ หลังเปิดลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 00.00 น. เนื่องจากมีการจำกัดรับสิทธิ์เพียงวันละ 1 ล้านคนเท่านั้น หากใครลงทะเบียนไม่ทัน ยังมีโอกาสลุ้นได้อีกในวันรุ่งขึ้น และยาวไปจนถึงวันที่ 15 พ.ย.นี้ หรือจนกว่าจะครบ 10 ล้านราย

สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ในวันแรก เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ให้รอรับ SMS หรือ e-mail ผลการลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ในวันที่ 26 ก.ย. จากนั้นให้รีบดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อใช้สิทธิ์ผ่าน G-Wallet และเมื่อลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับเงิน 1,000 บาท (G-Wallet 1) โดยไม่ได้รับเป็นเงินสด แต่เป็นจำนวนเงินที่จะสามารถใช้จ่ายผ่านแอปเท่านั้น และต้องเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ภายใน 14 วัน หลังได้รับ SMS (หากเกินเวลาเงินจะถูกดึงกลับ) และหากมีการเริ่มใช้สิทธิ์แล้ว จะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ออกมาระบุช่วง 4 วันแรกเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ได้มีผู้สนใจเข้าร่วมจนเต็มโควตา 1 ล้านคนในแต่ละวันแล้ว โดยในวันที่ 4 มีประชาชนมาลงทะเบียนครบ 1 ล้านคน ตั้งแต่เวลา 05.40 น. ของวันที่ 26 ก.ย.

ทั้งนี้จากการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา จากฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย และตรวจสอบจังหวัดที่แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยว ไม่ให้ซ้ำซ้อนกับจังหวัดในทะเบียนบ้าน พบว่า เป็นผู้ผ่านเกณฑ์ 807,321 ราย ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์ทยอยได้รับ SMS ยืนยันภายในวันที่ 26 ก.ย. และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.เป็นต้นไป โดยสิทธิ์ที่คงเหลือในแต่ละวันจะถูกยกไปใช้ต่อเป็นโควตาสำหรับให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมจนครบโควตารวมตลอดโครงการที่ 10 ล้านราย ดังนั้นประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนได้ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 พ.ย.

“มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ไม่ใช่การแจกเงิน แต่ต้องการให้เกิดการใช้จ่ายในสินค้าและบริการที่กำหนด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยสิทธิ์ 2 ส่วนคือ วงเงิน 1,000 บาทแรก ในกระเป๋า G-Wallet 1 เพื่อจูงใจให้กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อออกมาท่องเที่ยวข้ามจังหวัด และสิทธิ์การได้รับเงินคืน (cash back) 15% ของวงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาทในกระเป๋า G-Wallet 2 ซึ่งประชาชนต้องเป็นคนเติมเงินเข้าไปเอง”

พร้อมย้ำการดำเนินการที่ผิดจากวัตถุประสงค์ หรือหากตรวจพบมีการทำธุรกรรมในลักษณะผิดปกติ เช่น การรับแลกวงเงินเป็นเงินสด จะถูกระงับสิทธิ์ทันที และจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงการคลังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปติดตาม ตรวจสอบกรณีที่มีมิจฉาชีพ หาประโยชน์จากมาตรการชิมช้อปใช้ โดยเสนอให้ผู้ที่ได้สิทธิ์ 1,000 บาท สามารถมาแลกเป็นเงินสดได้ โดยหักค่าธรรมเนียมการแลกเป็นเงินสด ซึ่งกระทรวงการคลังมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว และได้ถอดสิทธิ์จากการเป็นร้านค้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด จึงขอเตือนมิจฉาชีพอย่าคิดหาผลประโยชน์จากมาตรการที่จะเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยในวันที่ 27 ก.ย.นี้

"ขอเตือนว่าอย่านำแอปพลิเคชันไปใช้ผิดจากวัตถุประสงค์ เพราะกระทรวงการคลังต้องการให้เงินใช้จ่ายผ่านบัตร ไม่ได้ให้แลกไปใช้เป็นเงินสด ซึ่งมีทีมมอนิเตอร์ตรวจสอบการใช้จ่ายได้หมดในกรณีที่พบความผิดปกติ จะสั่งระงับสิทธิ์ทันที"

สำหรับข้อมูลการลงทะเบียนในช่วง 4 วันแรก ตั้งแต่วันที่ 23-26 ก.ย. หากแยกตามกลุ่มอายุพบว่า วัยทำงาน (อายุ 31-60 ปี) มีสัดส่วนมากสุดที่ 54% รองลงมาเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน (อายุ 22-30 ปี) 32% วัยนักศึกษา (อายุ 18-21 ปี) 8% และผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) 6% และหากแยกตามพื้นที่ซึ่งผู้ลงทะเบียนต้องการใช้สิทธิ์ พบว่า ทั้ง 77 จังหวัดมีผู้แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยวและใช้สิทธิ์ โดยส่วนใหญ่ต้องการใช้สิทธิ์ในภาคกลาง คิดเป็นสัดส่วน 43% รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16% ภาคตะวันออก 15% ภาคใต้ 11% ภาคเหนือ 9% และภาคตะวันตก 6%.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรุงไทย แจงเหตุผล ล้านคนแรก สมัครชิมช้อปใช้ แต่ทำไมไม่ได้ SMS ยืนยันสิทธิ์                        

                     ลงทะเบียน "ชิมช้อปใช้" รับเงินเที่ยวชิวๆ 1,000 บาท วันที่ 4 ครบล้านแล้ว