นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นมากขึ้น ตามข้อสั่งการของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนในลักษณะ Front-Loaded หรือเร่งรัดโครงการที่สามารถเลื่อนการลงทุนให้เร็วขึ้น
เพื่อช่วยให้มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น และให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาโครงการลงทุนเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี 62 ทั้งนี้ ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือน ก.ค.62 ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง มีผลการเบิกจ่ายช่วง 10 เดือน (ต.ค.61-ก.ค.62) จำนวน 146,707 ล้านบาท คิดเป็น 81% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม
ด้านนายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ ที่ 146,707 ล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 34 แห่ง เบิกจ่ายได้ 77,891 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของแผน การเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 10 เดือน และการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 11 แห่ง 68,816 ล้านบาท คิดเป็น 98% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.62)
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่มีอัตราการเบิกจ่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรกคือ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน 5,108 ล้านบาท คิดเป็น 136% ของการเบิกจ่ายทั้งหมด 2.บมจ.ทีโอที 1,977 ล้านบาท คิดเป็น 129% ของการเบิกจ่ายทั้งหมด 3.การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 8,412 ล้านบาท คิดเป็น 124% ของการเบิกจ่ายทั้งหมด 4.การประปานครหลวง (กปน.) 3,869 ล้านบาท คิดเป็น 116% ของการเบิกจ่ายทั้งหมด 4.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 24,104 คิดเป็น 118% ของการเบิกจ่ายทั้งหมด แต่ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1, โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร, โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 เป็นต้น.