สงคราม “สลาก”

เขียนข่าวพาดหัวใหญ่ว่า “สงครามสลาก” อาจจะทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า เรื่องที่กำลังอ่านอยู่ขณะนี้ คือ เรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

แต่สงคราม “สลาก” ที่กำลังเขียนถึงอยู่นี้ คือ สลากออมทรัพย์ของธนาคารรัฐ ที่ออกมาขายให้แก่ประชาชน ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา พร้อมๆกันถึง 3 ธนาคารคือ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และล่าสุดคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่เพิ่งจะออกสลากชุด “วิมานเมฆ” เพื่อระดมเงินฝากจากประชาชนอยู่ในขณะนี้ โดยเสนอขายราคาสูงลิ่วถึงหน่วยละ 1 ล้านบาท มีสิทธิ์ถูกรางวัล มูลค่า 200,000 บาทจำนวน 27 รางวัล/งวด รวม 3 ปี ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือนนั้น

ทำให้เกิดคำถามว่า สลากของธนาคารแห่งไหน ระหว่าง ออมสิน ธ.ก.ส.และน้องใหม่อย่าง ธอส. ใครจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่ากัน

โดยสลากออมสินของธนาคารออมสินในฐานะ “เจ้าพ่อสลาก” ตัวจริง เพราะมีเงินฝากหมุนเวียนอยู่ในสลากมากกว่า 1 ล้านล้านบาทนั้น มีสลากออมสินที่จำหน่ายให้แก่ประชาชนในขณะนี้ มีมากถึง 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่

1.สลากออมสินพิเศษ 3 ปี ราคาหน่วยละ 50 บาท หากฝากครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.60 บาทต่อหน่วย ฝากครบ 2 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.25 บาทต่อหน่วย ฝากครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.125 บาทต่อหน่วย และหากฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 1 ปี ไม่ได้รับดอกเบี้ย และยังมีโอกาสลุ้น ถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท ไปจนถึงรางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 150 บาท อีกด้วย

สำหรับผลตอบแทนจากการซื้อสลากออมสินพิเศษ 3 ปี ซื้อสลากต่ำกว่า 500,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 0.40% ต่อปี ซื้อ 500,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 1.12% ต่อปี และซื้อ 5 ล้านบาท ได้รับผลตอบแทน 1.26% ต่อปี

2.สลากออมสินดิจิทัล 3 ปี ซื้อจาก MyMo หน่วยละ 50 บาท ฝากครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ย 1 บาทต่อหน่วย ฝากครบ 2 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ย 50 สตางค์ต่อหน่วย ฝากครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ย 25 สตางค์ต่อหน่วย ฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 1 ปี ไม่ได้รับดอกเบี้ย และมีโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท

โดยผลตอบแทนของสลากชุดนี้ หากซื้อต่ำกว่า 500,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 0.667% ต่อปี ซื้อ 500,000 บาท ได้รับผล ตอบแทน 1.387% ต่อปี ซื้อ 5 ล้านบาท ได้รับผลตอบแทน 1.531% ต่อปี ซื้อ 50 ล้านบาท จะได้รับผลตอบแทน 1.550% ต่อปี

และ 3.สลากออมสินดิจิทัล 1 ปี หรือ สลากดิจิทัล : Digital Salak on MyMo หน่วยละ 20 บาท ฝากครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.05 บาทต่อหน่วย ฝากครบ 6 เดือน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.02 บาทต่อหน่วย ฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 6 เดือน ไม่ได้รับดอกเบี้ย และยังมีโอกาสลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 2 ล้านบาท

โดยให้ผลตอบแทน 0.25% ต่อปี หากซื้อต่ำกว่า 200,000 บาท และหากซื้อมากกว่า 200,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 0.85% ต่อปี

ขณะที่ ธ.ก.ส. ก็ออกสลากออมทรัพย์ชุด “เกษตรมั่งคั่ง 4” หน่วยละ 100 บาท มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 15 ล้านบาท หากถือครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.75 บาทต่อหน่วย แต่หากฝากไม่ครบ 3 เดือน จะถูกหักค่าธรรมเนียมจากการถอนสลากมูลค่าสลาก 2 บาทต่อหน่วย

โดยฝาก 100,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 3,990 บาท หรือ 1.330% ต่อปี ฝาก 200,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 7,980 บาท ฝาก 500,000 บาท ได้รับผลตอบแทน 19,950 บาท และหากฝาก 1 ล้านบาท ได้รับผลตอบแทน 43,140 บาท หรือ 1.438% ต่อปี ซึ่งขณะนี้ได้หยุดจำหน่ายชั่วคราว หลังจากได้รับความนิยมจากประชาชนค่อนข้างสูง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน สามารถขายได้ถึง 100,000 ล้านบาท

สำหรับ ธอส.ออกสลากชุด “วิมานเมฆ” หน่วยละ 1 ล้านบาท มีโอกาสถูกรางวัลมูลค่า 200,000 บาท หรือคิดเป็น 0.1% เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสลากอื่นๆแล้ว ให้ผลตอบแทนมากกว่าสลากทั่วไปถึง 0.0004% โดยให้ผลตอบแทนสลาก “วิมานเมฆ” หากถือครบ 3 ปี อยู่ที่ 1.4% ต่อปี เท่ากับเงินฝากประจำ

ที่สำคัญ หากถูกรางวัลที่ 1 เพียง 1 ครั้งผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีขึ้นไปแตะที่ 8.07% ต่อปี และหากถูก 2 ครั้ง จะเพิ่มขึ้นเป็น 14.73% แต่หากไม่ซื้อตอนนี้ จะรอไปถึงปีหน้า ธอส.กำลังวางแผนคลอดสลากหน่วยละ 500 บาท ราคาย่อมเยาก็น่าสนใจไม่น้อย.

วรรณกิจ ตันติฉันทะวงศ์