นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนขายเครื่องบินเก่า รุ่นแอร์บัส A340 จำนวน 8 ลำว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสัญญาซื้อขาย เพื่อเดินหน้าลงนามข้อตกลงซื้อขายเครื่องบินลอตดังกล่าวร่วมกับลูกค้า คือเอกชนธุรกิจขนส่งโลอจิสติกส์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งวงเงินการขายเครื่องบินครั้งนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท “ตอนนี้กำลังตรวจสัญญาอยู่ เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะเขากลัว เพราะเครื่องบินจอดอยู่นาน เราก็ต้องทำให้เขามั่นใจว่า อย่างไรก็ซ่อมได้ ซึ่งต้องเร่งลงนามโดยเร็ว เพราะอยากให้จบภายในเดือนนี้ แต่เนื่องจากไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบินไทยฝ่ายเดียว ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาด้วย”
สำหรับความคืบหน้าของแผนจัดหาเครื่องบินลอตใหม่ จำนวน 38 ลำนั้น การบินไทยได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ แต่ยังไม่มีการพิจารณาอย่างไรก็ดี ยืนยันว่าโครงการจัดหาเครื่องบินลอตใหม่ เป็นเรื่องจำเป็นและเชื่อว่าจะมีการพิจารณาอนุมัติแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนจัดหาเครื่องบินใหม่ของการบินไทย จำนวน 38 ลำ วงเงินรวมอยู่ที่ราว 150,000-160,000 ล้านบาท โดยทีมที่ปรึกษาจากต่างประเทศและกำหนดเป็นกรอบจัดหาเครื่องบินในจำนวนและลักษณะที่เหมาะสม แต่ยังไม่มีการระบุรุ่น รวมไปถึงแหล่งเงินทุนที่ชัดเจน สำหรับรายละเอียดการจัดหาเครื่องบิน แบ่งออกเป็น ระยะที่ 1 การบินไทยต้องจัดหาเครื่องบินจำนวน 25 ลำ วงเงินราว 77,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนฝูงบินที่มีกำหนดปลดระวาง 19 ลำ ภายใน 5 ปีนี้ โดยจะเน้นเครื่องบินที่มีขนาดลำตัวแคบ อาทิ โบอิ้ง 737 และแอร์บัส A320 โดยจำนวนจัดหาที่เหมาะสมอยู่ที่ 22 ลำ และส่วนที่เหลืออีก 3 ลำ ให้พิจารณาเป็นเครื่องบินอื่นๆ ที่มีลำตัวกว้าง ขณะที่ระยะ 2 จะต้องจัดหาเครื่องบินอีก 13 ลำ เพื่อทดแทนฝูงบินเช่นแอร์บัส A380 และโบอิ้ง 777-200 ที่จะปลดระวาง.