นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทย ไตรมาสแรก ปี 62 ว่า ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น
โดยภาคเอกชนมีการออกตราสารหนี้ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ทำลายสถิติการออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 279,777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% หรือ 48,747 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการออกของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคการผลิตที่แท้จริง (Real Sector) ที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนกลุ่มสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่ เช่น บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ระดมทุนโดยออกหุ้นกู้หรือตราสารหนี้อย่างต่อเนื่องจากปี 61 เพื่อนำเงินไปซื้อกิจการในต่างประเทศ ส่งผลให้มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนอยู่ที่ 3.68 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดตราสารหนี้มีมูลค่าคงค้างรวม 12.96 ล้านล้านบาท โต 12.7% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ระดับ 12.79 ล้านล้านบาท “แม้การระดมทุนภาคเอกชนในไตรมาสแรกจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ แต่สมาคมยังคงเป้าหมายการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว ปี 62 อยู่ที่ 750,000-850,000 ล้านบาท เนื่องจากต้องติดตามเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกประกอบด้วย หากเติบโตได้ดีก็อาจจะผลักดันให้เอกชนระดมทุนเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้”
“แต่เมื่อมาพิจารณาการออกตราสารหนี้ระยะสั้นของภาคเอกชน กลับพบว่ามีมูลค่าการออกลดลงถึง 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยพบว่ากลุ่มธุรกิจเดียวกันได้เปลี่ยนจากการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋วบี/อี) เป็นการกู้ยืมกันในรูปแบบของสัญญาเงินกู้แทน ส่วนภาค Real sector และธุรกิจการเงินที่ชะลอการออก คาดว่าส่วนหนึ่งเพื่อรอจังหวะดอกเบี้ยที่เหมาะสม หลังจากที่ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นปรับสูงขึ้นตามการปรับขึ้นของดอกเบี้ยนโยบาย”.