นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) เปิดเผยว่า บริษัทจะใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทในปีนี้เพื่อขยายธุรกิจ เปิดร้านอาหารเครือฯ ใหม่ 120-130 สาขา ควบคู่กับการปรับปรุงสาขาเดิมที่มีอยู่เป็นการลงทุนระบบไอทีสารสนเทศประมาณ 1,400 ล้านบาท ส่วนอีก 600 ล้านบาท จะใช้ทำกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจรเพื่อผลักดันให้ธุรกิจร้านอาหารในเครือทั้ง 11 แบรนด์ มียอดรายได้แตะ 13,400 ล้านบาท เติบโต 12% จากปี 61 ที่ทำได้ 12,000 ล้านบาท เติบโต 10% ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ การเติบโตในปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากแบรนด์หลัก อย่างเคเอฟซี, โอโตยะ และอานตี้แอนส์ ทำยอดขายเติบโตมาก โดยเคเอฟซีเติบโต 10% โอโตยะเติบโต 9.8% ขณะที่แบรนด์อื่นๆ อย่างโยชิโนยะ, คัตสึยะ, เทนยะ และเปเปอร์ ลันช์ มียอดขายรวมกัน 1,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกอีกด้วย
“แม้บริษัทฯ จะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง แต่จากการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจร้านอาหารทั้งมีรายใหม่ๆที่เข้ามาแบ่งเค้ก และรายเก่าที่ลุยบุกขยายสาขาต่อเนื่อง บริษัท ในฐานะรายใหญ่ จึงเปิดแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ อาทิ แบรนด์อร่อยดีร้านอาหารไทยตามสั่ง ราคาเริ่มต้น 59 บาท และสุกี้เฮาส์ เข้ามาทำตลาดเสริมทัพ และเพิ่มความหลากหลายกับผู้บริโภคมากขึ้น โดยในส่วนของแบรนด์อร่อยดี ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 3 สาขาและ มีแผนเปิดครบ 10 สาขาในปีนี้ ส่วนแบรนด์สุกี้เฮาส์เบื้องต้นจะเปิดสาขาแรกในเดือน เม.ย.นี้”
นายณัฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีแผนขยายบริการมัลติแบรนด์ดีลิเวอรีเต็มรูปแบบ หลังเปิดตัวบริการใหม่ “1312 สั่งครั้งเดียว อร่อยหลายร้าน” จัดส่งในการสั่งอาหารเพียงครั้งเดียวและจ่ายค่าบริการจัดส่งเพียงครั้งเดียว โดยปีนี้จะขยายเข้าสู่ช่องทางออมนิชาแนล ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากร้านอาหาร ทั้งกลุ่มซีอาร์จี รวมถึงการจองร้านอาหารและออเดอร์ต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น “CRG 1312” คาดจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย. นี้ มีเป้ายอดขายเฉพาะดีลิเวอรีเติบโต 5 เท่าตัว จากปี 2561 ที่ยอดขายจากดีลิเวอรีไม่รวมเคเอฟซีมีประมาณ 70-80 ล้านบาท.