ไฟเขียวแผนความปลอดภัยการบินแห่งชาติ
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนนิรภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแผนชาติด้านความปลอดภัยการบินของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมี
โดยเป็นกรอบกำกับความปลอดภัยเรื่องการบินให้ผู้ประกอบการการบินทุกประเภทต้องปฏิบัติตาม ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) กำหนดให้ทุกประเทศต้องมีแผนให้ชัดเจนว่ารัฐและผู้ประกอบการต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีความปลอดภัยด้านการบิน
ทั้งนี้ ได้มีการรายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ร่าง พ.ร.บ.การเดินอากาศ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้ง 2 ฉบับแล้ว คาดว่าจะประกาศใช้เดือน เม.ย.62 โดยฉบับแรกเป็นการแก้ไขสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะทำการผลิตอากาศยาน หรือผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน หรือทำเป็นศูนย์ซ่อมประเภทซ่อมทั้งลำในไทย จากปัจจุบันคนไทยต้องถือหุ้นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% และต่างชาติไม่เกิน 49% โดยได้ปรับเป็นเปิดเสรีให้ต่างชาติถือหุ้นสูงสุดได้ 100% แต่ต้องปฏิบัติตามร่างพระราชกฤษฎีกาเงื่อนไขรายละเอียดการลงทุน อาทิ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาด้วย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ พ.ค.นี้ ส่วนฉบับที่ 2 แก้ไข พ.ร.บ.การเดินอากาศ 200 ประเด็นให้สอดคล้องกับมาตรฐานของไอเคโอ โดยเฉพาะการกำหนดหน้าที่ของ กบร. ที่จะทำหน้าที่เป็นกรรมการนโยบายด้านการบิน และกำกับดูแลเศรษฐกิจ เช่น การพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการการค้าขายการเดินอากาศ (เอโอแอล) จากเดิม รมว.คมนาคม เป็นผู้พิจารณาและลงนาม แต่กฎหมายใหม่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กบร. และ รมว.คมนาคม เป็นผู้ลงนาม นอกจากนี้ จะกำกับดูแลค่าโดยสาร การคุ้มครองผู้บริโภค และมาตรฐานการให้บริการของสายการบิน
นอกจากนี้ยังมีการรายงานผลการใช้ระบบการบินสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรองของประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล 23 ท่าอากาศยานทั่วประเทศ ปรากฏว่า มีผู้โดยสารเดินทางไปเมืองรอง 15 ล้านคน คิดเป็น 10% ของผู้โดยสารทั้งหมดและมีเที่ยวบิน 126,381 เที่ยวบิน โดยท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีผู้โดยสารและเที่ยวบินสูงสุด และเพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองรองมากขึ้น และ กพท.จะเปิดให้สายการบินที่ทำการบินจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย บินเข้ามายังท่าอากาศยานในจังหวัดเมืองรองภาคใต้ 6 สนามบิน ได้โดยตรง.