อินเดียยกทัพบุกไทยแทนจีน “แอตต้า” มั่นใจอีก 10 ปีล้นทะลัก 10 ล้านคน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

อินเดียยกทัพบุกไทยแทนจีน “แอตต้า” มั่นใจอีก 10 ปีล้นทะลัก 10 ล้านคน

Date Time: 29 พ.ย. 2561 09:30 น.

Summary

  • “วีระศักดิ์” เผยสายการบินอินเดียขอเพิ่มเที่ยวบินมาไทยทั้งภูเก็ตและดอนเมือง “แอตต้า” ชี้ในอีก 10 ปีข้างหน้านักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยแตะ 10 ล้านคน ทดแทนตลาดจีนที่ลดลง ชี้โอกาสตลาดจีนโตปีละ 20%

Latest

ล้อมคอกรถโดยสารสาธารณะยึดมาตรฐาน "UN”

“วีระศักดิ์” เผยสายการบินอินเดียขอเพิ่มเที่ยวบินมาไทยทั้งภูเก็ตและดอนเมือง “แอตต้า” ชี้ในอีก 10 ปีข้างหน้านักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยแตะ 10 ล้านคน ทดแทนตลาดจีนที่ลดลง ชี้โอกาสตลาดจีนโตปีละ 20% จะไม่ได้เห็นอีกต่อไป แต่ยังโตปีละ 5-10% เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวจะเข้าสู่ภาวะปกติในเดือน ม.ค.2562

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้หารือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า สำนักงานการบินพลเรือน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ในประเด็นที่จะช่วยอำนายความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ได้แก่ เรื่องการบริหารช่วยเวลาที่สนามบินอนุญาตให้สายการบินขึ้นลง (สล็อต การบิน) เรื่องใบขับขี่ชั่วคราวที่นักท่องเที่ยวสามารถยื่นขอได้ ความผิดของเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ที่ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่นำไปขับ ซึ่งมีโทษปรับ 2,000 บาท ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รถยนต์ พ.ศ.2522 ตลอดจนการติดตามเรื่องการขนส่งทางน้ำและการกู้เรือฟีนิกซ์ การจัดระบบท่าเรือโดยสารและการจดทะเบียนเรือโดยสารประจำทาง

“ที่น่าสนใจคือ มีสายการบินจากอินเดียแจ้งขอบินมาเข้า จ.ภูเก็ต เพิ่มอีกสัปดาห์ละ 4 ไฟลท์ตอนนี้จัดเพิ่มให้ได้แล้ว และอยากขอมาลงที่สนามบินดอนเมืองด้วย ซึ่งหาสล็อตเวลาให้ได้แล้ว แต่ยังหาหลุมจอดเพิ่มมาให้ไม่ได้ เพราะสนามบินดอนเมืองเป็นฐานของหลายๆสายการบินในไทยทำให้ต้องมีเครื่องจอดค้างคืนเป็นจำนวนมากจริงๆ”

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ภายหลังรัฐบาลออกมาตรการ 4 ด้านในเรื่องของการอำนวยความสะดวกการตรวจลงตรา (วีซ่า) เข้าประเทศไทย และมาตรการแรกที่มีผลแล้ว คือการยกเว้นค่า ธรรมเนียมวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On Arrival : VOA) 2,000 บาท ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ 15 พ.ย.2561 เป็นต้นมา ได้เริ่มส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ติดลบมาตลอด 4 เดือน ติดลบน้อยลงและเชื่อว่าจะกลับสู่ภาวะปกติในเดือน ม.ค.2562 แตกต่างจากเดิมถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะติดลบไปถึง 2562 ต่อเนื่อง และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 10.5 ล้านคน และตลอดทั้งปีนี้เชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้ตามเป้าที่การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งไว้ 38 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท

“ในปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนคงอยู่ที่ 11-11.5 ล้านคน ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนด้วย ขณะที่ในทางธุรกิจเชื่อว่าระยะต่อไปการจะไม่ได้เห็นนักท่องเที่ยวจีนโตปีละ 20% อีก แต่ยังคงมีการเติบโตที่ 5-10% โดย 5 ปีจากนี้จะอยู่ที่ 15 ล้านคน และจะไปอิ่มตัวที่ปีละ 20 ล้านคน อีกทั้งโครงสร้างจะปรับไปเป็นที่เดินทางมาด้วยตัวเองหรือเอฟไอทีสูงมากกว่ากลุ่มเดินทางกับบริษัททัวร์ ดังนั้น ธุรกิจโรงแรมที่เน้นรับทัวร์จีนจะต้องปรับไปรับนักท่องเที่ยวจีนแบบเอฟไอทีด้วย”

สำหรับอนาคตมองว่าตลาดที่มีโอกาสเติบโตมากและทดแทนจีน ในอีก 10 ปีข้างหน้าคืออินเดีย ที่จะถึง 10 ล้านคน จากที่ตลอดปีนี้น่าจะมากกว่า 1.5 ล้านคน โดยได้อานิสงส์จากมาตรการยกเว้นค่า ธรรมเนียม VOA ด้วย ซึ่งใน 2-3 เดือนนี้ นักท่องเที่ยวอินเดียจะขยายตัวถึง 20% และคาดว่าไม่เกิน 5 ปี จะถึง 3 ล้านคน กลายเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนสูงอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากจีน

“ที่ผมมั่นใจเพราะเศรษฐกิจของอินเดียเติบโตสูงเฉลี่ยปีละ 7% และจะต่อเนื่องอย่างนี้ไปอีก 5-10 ปี ฉะนั้น ประชากร 1,300 ล้านคน จะกลายเป็นชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น และจะมีรายได้สูงกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ซึ่งเป็นรายได้ที่ชี้ให้เห็นว่า เป็นกลุ่มคนที่เริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ ขณะที่การบินมาเที่ยวประเทศไทยใช้เวลา 3-5 ชั่วโมง เหมือนกับจีนมาไทย ฉะนั้น จะต้องปรับการทำตลาดอินเดีย และจะต้องเข้าใจวัฒนธรรมของเขาด้วย”

นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA หมดในวันที่ 13 ม.ค.2562 อยากให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไปอีก จนหลังเทศกาลสงกรานต์ เพราะปกติมาตรการวีซ่าจะใช้เวลา 6 เดือน และอยากเสนอเรื่องของมาตรการ Re-Entry Permit ที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วกลับเข้าไทยได้ โดยไม่ต้องทำวีซ่าใหม่ หากทดลองใช้ 2 เดือนแล้วได้ผล ขอให้พิจารณาทำถาวร เพราะจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เมื่อก่อนมีอุปสรรคมาก โดยเส้นทางที่น่าสนใจมาก คือไป จ.ระนอง+เกาะสองของเมียนมา หรือ หาดใหญ่+มาเลเซีย ส่วนภาคอีสานขายยากหน่อยเพราะไม่มีทะเล.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ