นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบแผนการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำ เพื่อมาทดแทนเครื่องบินเก่า ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่มติ ครม.เมื่อวันที่ 20 เม.ย.54 ให้จัดซื้อ 75 ลำ แต่ที่ผ่านมาได้จัดซื้อไปได้เพียง 37 ลำ และได้อนุมัติให้ขยายเวลาการจัดหาเครื่องบินออกไปเป็นปี 2562-2566 จากเดิมต้องเริ่มจัดหาในปี 2561 โดยให้ฝ่ายบริหารไปจัดทำรายละเอียดการจัดหาทั้งหมด แล้วนำมารายงานบอร์ดให้รับทราบอีกครั้ง ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ครม.พิจารณาอนุมัติภายในเดือน ธ.ค.นี้
“การบินไทยต้องจัดหาเครื่องบิน เพื่อเข้ามาประจำฝูงบินใหม่ การขออนุมัติครั้งนี้ ถือว่าการบินไทยเสนอช้าไปมาก เนื่องจากปัจจุบันเครื่องบินการบินไทย ใช้เต็มขีดความสามารถ ประกอบกับเครื่องบินที่ต้องซ่อมบำรุง และ 3 ปีที่ผ่านมาการบินไทย สูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไป 10% จากเดิม ส่วนแบ่งตลาดภาพรวม ต้องโตเฉลี่ยปีละ 3% หากจะต้องรักษาสภาพอัตราการเติบโต ให้เหมือนกับการเติบโตของธุรกิจ การบินสายการบินอื่นๆ ก็ต้องมีเครื่องบินเข้าประจำฝูงบิน เพื่อให้การบินมีศักยภาพสูงสุดที่ 125 ลำภายใน 5 ปี ปัจจุบันมีเครื่องบินประจำฝูงบิน 100 ลำ”
สำหรับรูปแบบการจัดหาเครื่องบิน อาจเป็นทั้งการซื้อ การเช่าและการเช่าซื้อ และที่ประชุมบอร์ดการบินไทยยังได้พิจารณาแผนธุรกิจทางการบิน ซึ่งแผนธุรกิจการบิน จะมีรายละเอียดเรื่องของเส้นทางบิน, รุ่นเครื่องบินที่จะจัดหา, แหล่งเงินที่จะจัดหาว่ามาจากที่ใด และเรื่องการเปิดเส้นทางบินสหรัฐฯ จะต้องรอผลการพิจารณาของสำนักงานบริหารการบินสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ที่จะเข้ามาตรวจสอบด้านเทคนิค เพื่อพิจารณาเลื่อนระดับมาตรฐานความปลอดภัย จากระดับ 2 เป็นระดับ 1 ก่อน.