“พงษ์ภาณุ” ทิ้งไพ่ขอลาออก ท่องเที่ยวส่งสัญญาณบวกเด้งรับมาตรการ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“พงษ์ภาณุ” ทิ้งไพ่ขอลาออก ท่องเที่ยวส่งสัญญาณบวกเด้งรับมาตรการ

Date Time: 17 พ.ย. 2561 05:45 น.

Summary

  • เนื่องจากนายพงษ์ภาณุ ทำงานไม่เข้าขาและไม่สอดรับกับนโยบาย รมต.การท่องเที่ยวและกีฬา ประกอบกับกังวลเรื่องที่นายสันติ ป่าหวาย ...

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

“พงษ์ภาณุ” ยื่นลาออกปลัดกระทรวงการ ท่องเที่ยวฯ มีผล 9 ธ.ค.2561 เหตุทำงานไม่เข้าขารัฐมนตรี “วีระศักดิ์” เผยใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่านวันแรก นักท่องเที่ยวเพิ่ม 20% ด้าน “บินไทย” รับอานิสงส์ตลาดจีนเริ่มส่งสัญญาณบุ๊กกิ้งเพิ่ม ขณะที่แพ็กเกจท่องเที่ยวเมืองรองบูม ยอดจองเทศกาลลอยกระทงพุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลส่วนตัว ให้มีผลในวันที่ 9 ธ.ค.2561 โดยล่าสุดนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายวีระศักดิ์ยับยั้งไว้ พร้อมกับโทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายพงษ์ภาณุด้วยตัวเอง แต่ล่าสุดนายพงษ์ภาณุ ได้ยืนยันลาออกอีกครั้งกับนายวีระศักดิ์ เมื่อนายสมคิดทราบเรื่องจึงให้อนุมัติ เพราะถือว่าได้ให้โอกาสทบทวนแล้ว สำหรับเหตุผลของการลาออกที่แท้จริง เนื่องจากนายพงษ์ภาณุ ทำงานไม่เข้าขาและไม่สอดรับกับนโยบาย รมต.การท่องเที่ยวและกีฬา ประกอบกับกังวลเรื่องที่นายสันติ ป่าหวาย รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในช่วงที่รับตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนายพงษ์ภาณุ ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวและต้องไปร่วมชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ด้วย เมื่อได้รับการทาบทามจากบริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทยให้ร่วมทำงาน นายพงษ์ภาณุ จึงตัดสินใจลาออกโดยไม่รอให้เกษียณราชการก่อนในเดือน ก.ย.2562

ขณะที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่อง-เที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยว ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยในช่วงต้นฤดูการท่องเที่ยวว่า ได้สอบถามทางตัวแทนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ถึงผลตอบรับภายหลังมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (VOA) ให้กับนักท่องเที่ยว 20 ชาติ 1 เขตเศรษฐกิจ พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในวันเริ่มมาตรการวันแรกคือ 15 พ.ย. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้นจากปกติวันละ 5,000 คนเป็น 6,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 20% และทาง ตม.ได้เตรียมพร้อมเพิ่มช่องทางเข้าตรวจลงตราจากปกติอีก 3 ช่อง ส่วนสนามบินอื่นยังไม่ได้เก็บข้อมูล นอกจากนี้ ทางสถานทูตจีนแสดงความพอใจที่ทั้งรัฐและเอกชนของไทย ได้เข้มงวดการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า โครงการอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล พาสปอร์ต พริวิเลจ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2561-15 ม.ค.2562 ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันลดราคาสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่โชว์พลาสปอร์ตแบบออนท็อป มากกว่า 50% เพื่อกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจากตลาดระยะใกล้ เชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทยประมาณ 500,000 คน หรือสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 25,000 ล้านบาท

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ผลจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA บรรดากรุ๊ปทัวร์ได้เริ่มติดต่อเข้ามาแล้ว แต่เนื่องจากตอนออกข่าวครั้งแรก นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเริ่ม วันที่ 1 ธ.ค.2561 ทางกรุ๊ปทัวร์จึงจะกลับมาตอนนั้น

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยังมั่นใจว่า ปีนี้การบินไทยจะยังรักษาอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบินแฟกเตอร์) ได้สูงเฉลี่ย 80% ภายหลังรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี มีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีนมั่นใจว่าจะกลับมาจองการเดินทางคึกคัก

“ตอนนี้เริ่มเห็นยอดจองล่วงหน้า (บุ๊กกิ้ง) ในช่วงปลายปีกลับมาดีขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทง มีบุ๊กกิ้งเข้ามาเต็มหมด เช่น เส้นทางเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวจีนนิยมจองการเดินทางเข้ามามาก ขณะเดียวกัน แพ็กเกจท่องเที่ยวเมืองรองก็ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด ขณะนี้การบินไทยมีบุ๊กกิ้งเส้นทางเมืองรอง อาทิ เชียงราย แม่ฮ่อนสอน ช่วงลอยกระทงเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 หลัก”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ