นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาร์ต้า) ว่า ไออาร์ต้า ได้มาสอบถามความคืบหน้าการพัฒนาการขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะการซ่อมแซมทางวิ่ง หรือรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งซ่อมถาวร และซ่อมชั่วคราว ให้ดำเนินการเร็วขึ้น โดยเฉพาะการซ่อมรันเวย์แบบถาวรและการสร้างรันเวย์ 3 และ 4 ที่ใช้เวลาซ่อมแซมกว่า 4-5 ปี ซึ่งไออาร์ต้ามองว่าใช้เวลานานเกินไป ขณะเดียวกันการซ่อมทางขับ หรือแท็กซี่เวย์ นั้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้ปรับเวลาการซ่อมแซมให้เร็วขึ้นเหลือเพียงปีครึ่งเท่านั้น
นอกจากนั้น ไออาร์ต้า ได้ติดตามความคืบหน้าของโครงการขยายขีดความสามารถสนามบินดอนเมืองระยะที่ 3 ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร โดย ทอท. ได้รายงานว่า สนามบินดอนเมืองมีแผนที่ขยายสนามบินเพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้ 40-45 ล้านคนต่อปี ขณะเดียวกันไออาร์ต้า มีความกังวลในเรื่องของขีดความสามารถของการจัดระบบจราจรทางอากาศ เนื่องจากปัจจุบันมีสายการบิน บินเข้า-ออก ประเทศไทยจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอให้ ทอท., บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเทคโนโลยีมาใช้เหมือนกับสนามบินชางฮี สิงคโปร์ ที่มีการนำเทคโนโลยีการใช้ข้อมูลทางชีวภาพ (ไบโอเมททริค) มาใช้ในการให้ผู้โดยสารแสดงตน เช่น ลายนิ้วมือ ใบหน้า และม่านตา เป็นต้น หากทำได้จะทำให้ ทอท.ลดต้นทุนการดำเนินการลงกว่า 30%.