กรมท่าอากาศยานชงคมนาคมเข็นสนามบินหัวหินเปิดประมูลให้เอกชนบริหาร หวังเร่งพัฒนาขีดความสามารถรองรับไทยแลนด์ริเวียร่า มั่นใจเข้า ครม.พร้อมทันรัฐบาลชุดนี้ ระบุศักยภาพด้านการท่องเที่ยวจะดูดความสนใจเอกชนแห่ประมูลแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า ขณะนี้ ทย.ได้ทำการศึกษาความเหมาะสมของนโยบายที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องการผลักดันให้นำสนามบินภายใต้การดูแลของ ทย.ทั้ง 24 แห่ง ออกมาเปิดเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) โดยล่าสุด ทย.ได้เสนอมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเอาสนามบินหัวหินเป็นโครงการนำร่องเตรียมเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนแล้ว
“หลังจากที่ ทย.ได้โอน 4 สนามบินที่มีศักยภาพคือ สนามบินอุดรธานี สนามบินตาก สนามบินชุมพร และสนามบินสกลนคร ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รับไปบริหาร ทางกระทรวง ก็มีนโยบายให้เร่งศึกษาสนามบินที่เหลือเพิ่มเติม ว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะนำมาเปิดพีพีพีหรือไม่ เพราะเล็งเห็นว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะช่วยให้การพัฒนาสนามบินในไทยเร็วขึ้น ทันต่อการรองรับผู้โดยสารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาของ ทย. ที่จะนำร่องสนามบินหัวหินออกมาเปิดประมูลเป็นแห่งแรกนั้น เนื่องจากสนามบินดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ที่รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาอยู่ โดยจะเป็นส่วนสำคัญของการขนส่งผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ ประกอบกับสนามบินหัวหินยังอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จึงมั่นใจว่าเอกชนจะให้การตอบรับเข้าร่วมประมูลโครงการเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ขณะนี้ ทย.ได้เสนอผลการศึกษาไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว คาดว่าจะเสนอ ครม.ขอความเห็นชอบและเริ่มกระบวนการเปิดประมูลได้ทันในรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น โดย ทย.มั่นใจว่าหากสนามบินหัวหินได้รับการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถ และบริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม จะส่งผลให้การท่องเที่ยวในพื้นที่โดยรอบ รวมถึงโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ได้รับผลบวกจากการเดินทางที่มากขึ้น
ทั้งนี้ สนามบินหัวหิน มีเนื้อที่ 450 ไร่ ประกอบด้วย อาคารผู้โดยสาร 1 หลัง ขนาด 7,200 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง และทางวิ่ง ขนาด 2,100 × 35 เมตร ลานจอดอากาศยาน 2 ลานจอด ขนาด 85×90 เมตร และ 140×170 เมตร รองรับอากาศยานขนาด โบอิ้ง 737 จำนวน 1 ลำ ATR-72 จำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันมีภารกิจรองรับเที่ยวบินพาณิชย์ เที่ยวบินส่วนบุคคล เที่ยวบินฝึกบินของโรงเรียนการบิน เที่ยวบินทหาร ภารกิจราชการ ฝนหลวง และอื่นๆ
โดยแผนพัฒนาในอนาคต ทย. คาดว่าจะใช้วงเงิน 3,500 ล้านบาท ประกอบไปด้วย ขยายความกว้างทางวิ่ง (รันเวย์) จาก 35 เมตร เป็น 40 เมตร เพิ่มหลุมจอดเพื่อรองรับเครื่องบินได้ 10 ลำ สร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร สร้างระบบขนส่งรถไฟฟ้าขับเคลื่อนไร้คนขับอัตโนมัติ (APM) เชื่อมต่อสถานีรถไฟความเร็วสูง เพิ่มจุดเช็กอินฝั่งถนนเพชรเกษม เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 100,000 คนต่อปี เป็น 3 ล้านคนต่อปี ส่งผลให้ ทย.มองโอกาสจากการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในแผนพัฒนาดังกล่าว จะช่วยประหยัดงบประมาณรัฐ และทำให้การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
ทั้งนี้ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ได้ให้นโยบายก่อนหน้านี้ว่า ให้ ทย.ศึกษาความเหมาะสม นำสนามบิน 3-4 แห่ง ออกมาเปิดพีพีพีเพราะจะช่วยให้การพัฒนาศักยภาพของสนามบินในไทยทันต่อการเติบโต.