นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% ที่ผู้มีรายได้น้อยได้ชำระว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครร้านธงฟ้าประชารัฐกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,000 ร้านค้า ซึ่งมีร้านธงฟ้าประชารัฐกว่า 1,300 ร้านค้า สมัครเข้าร่วมแล้ว และกรมบัญชีกลางได้ส่งข้อมูลร้านค้าให้ธนาคารกรุงไทย เตรียมติดตั้งอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) แล้ว และเพื่อเปิดโอกาสให้ร้านค้าที่สนใจแต่ยังไม่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ กรมจึงขยายวันปิดรับสมัครจากวันที่ 15 ต.ค. เป็น 26 ต.ค.61 ร้านค้าที่มีที่ตั้งในเขตกรุงเทพฯสมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง ส่วนในต่างจังหวัด สมัครได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
สำหรับการติดตั้งเครื่อง POS นั้น เมื่อกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด ได้รับข้อมูลการสมัครและบันทึกข้อมูลร้านค้าที่จะติดตั้งเครื่อง POS เข้าระบบเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้ธนาคารกรุงไทย ดำเนินการติดตั้งเครื่อง POS ให้กับร้านค้าที่สมัครเข้ามาก่อนภายใน 15 วัน พร้อมติดสติกเกอร์หน้าร้านค้าเพื่อแสดงว่าเป็นร้านที่เข้าร่วมโครงการ โดยร้านค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแต่อย่างใด “ยอมรับว่าขณะนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างและติดต่อไปยังร้านธงฟ้าประชารัฐ เพื่อเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่อง POS ขอให้ร้านค้าอย่าหลงเชื่อ หากสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศได้”
นางสาวสุทธิรัตน์กล่าวว่า มาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ธนาคารกรุงไทยจะเริ่มดำเนินการคัดแยกข้อมูลภาษี เมื่อผู้มีสิทธิได้ชำระราคาสินค้าหรือบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการระหว่างวันที่ 1 พ.ย.61-30 เม.ย.62 ซึ่งเป็นการใช้จ่ายจริงผ่านบัตรในแต่ละเดือน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.หัก 1% แรกกันไว้เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม และ 2.หัก 6% จำแนกออกเป็น 2.1 หัก 5% เพื่อนำไปใช้จ่ายเงิน ในส่วนนี้จะโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ 2.2 หัก 1% เพื่อการออม เมื่อรวม 2 ส่วนต้องไม่เกิน 500 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งเงินชดเชยดังกล่าวกรมบัญชีกลางจะโอนให้ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากตรงวันหยุดจะเลื่อนเป็นวันทำการก่อนวันหยุด.