กลุ่มรถตู้ยัน 1 ต.ค.ให้บริการได้ปกติ ยังไม่มีผู้โดยสารสะสมจนผิดสังเกต

กลุ่มรถตู้ยัน 1 ต.ค.นี้ยังให้บริการได้ปกติ ด้านขนส่งทางบก ย้ำ!กำหนดอายุรถตู้ไม่เกิน 10 ปี เพื่อความปลอดภัยประชาชนพร้อมเสริมรถทุกเส้นทาง ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ หวั่นกระทบประชาชน...

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2561 นายปัญญา เลิศหงิม ประธานชมรมรถตู้โดยสารกรุงเทพฯและปริมณฑล และประธานรถตู้ สายต.84 เอ เส้นทาง จตุจักร-รังสิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ทาง บริษัท คอมมอนวิว จำกัด บริษัทที่รับผิดชอบดูแลให้บริการที่จอดรถ ของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ได้ทำหนังสือส่งมายังผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะที่ทำสัญญาเช่าพื้นที่ห้างเป็นคิวจอดรถตู้ ขอให้ปฏิบัติตามสัญญาและการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะของกรมการขนส่งทางบก โดยห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการรถตู้นำรถตู้โดยสารสาธารณะที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี มาจอดและให้บริการภายในพื้นที่ตามสัญญาเช่าจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขและเปลี่ยนรถตู้สาธารณะให้ถูกต้องตามกฎหมายและแจ้งผลมายังบริษัทโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาการให้บริการแก่ลูกค้าของศูนย์การค้าและประชาชนทั่วไป ทั้งนี้หากบริษัทตรวจพบการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามที่ทางราชการกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการระงับการนำรถตู้มาจอด และให้บริการในพื้นที่ตามสัญญา

ประธานชมรมรถตู้ฯ กล่าวถึงภาพรวมการให้บริการของรถตู้โดยสารสาธารณะในกรุงเทพฯและปริมณฑลในวันที่ 1 ต.ค.ว่า สถานการณ์ยังคงเป็นปกติ ไม่มีจุดไหนที่สะสมของผู้โดยสารมากจนผิดปกติ เนื่องจากในช่วงเช้าวินรถตู้รอบนอกกรุงเทพฯจะมีผู้โดยสารรอขึ้นรถหนาแน่นเป็นปกติอยู่แล้ว เนื่องจากต้องเข้าไปทำงานในเมือง ส่วนช่วงเย็นวินรถตู้ในเมืองก็หนาแน่น เพราะผู้โดยสารจะกลับบ้าน ซึ่งจะที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และบริเวณฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

“ตอนเช้ามีรถเมล์ของ ขสมก.มาให้บริการประชาชนที่บริเวณวินรถตู้ด้วย แต่ประชาชนไม่ขึ้น เนื่องจากผู้ไปรอรถตู้ ก็เพราะต้องการนั่งรถตู้ ที่สะดวก สบายมากกว่า โดยหลายคนยินดีที่จะยืนรอรถตู้มากกว่าขึ้นรถเมล์” นายปัญญา กล่าว

ประธานชมรมรถตู้ฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จะเห็นว่าวันจันทร์ (1ต.ค.) ยังไม่สามารถประเมินจำนวนผู้โดยสารที่เข้าใช้บริการได้อย่างแท้จริง เพราะบางคนยังอยู่ระหว่างเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯหลังจากหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจจะต้องรอดูต่อไปอีกสัก 1-2 วัน จึงจะทราบว่าจำนวนผู้โดยสารหนาแน่นมากกว่าปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการช่วยเหลือคนขับรถตู้ที่อายุมากแล้ว และไม่รู้ว่าจะไปประกอบอาชีพอะไร โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องการให้ภาครัฐตั้งคณะทำงานขึ้นมาเยียวยากลุ่มดังกล่าวด้วย เพราะหลายคนไม่ประสงค์จะขับรถตู้ต่อไป เนื่องจากไม่มีกำลังเพียงพอที่จะซื้อรถใหม่มาให้บริการ ซึ่งการเยียวยาก็อาจจะเป็นการหางานให้ทำ เพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวได้ ไม่ใช่ไม่เหลียวแล เนื่องจากบางคน ขายไร่ ขายนาจากต่างจังหวัด เพื่อซื้อรถตู้มาวิ่งให้บริการ และบางคนก็ยังผ่อนรถไม่หมด เพราะเป็นการซื้อรถตู้ต่อจากคนอื่นมาให้บริการ จึงยังติดไฟแนนซ์อยู่ เป็นต้น

ด้าน นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยถึง กรณีรถตู้โดยสารประจำทางที่วิ่งเส้นทางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 20 เส้นทาง ซึ่งจะครบกำหนดอายุ 10 ปี ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และจะหยุดวิ่งให้บริการตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 พบว่าในปี 60-61 จะมีรถตู้ที่หมดอายุการใช้งานจำนวนรถ 954 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นรถตู้ซึ่งจะครบอายุการใช้งาน 10 ปี ในวันที่ 30 ก.ย. 61 เพียง 584 คัน มิใช่เป็นจำนวนมากถึง 1,800 คัน ดังที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งขนส่งทางบกได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พร้อมทั้งได้เชิญตัวแทนรถตู้ทั้ง 20 เส้นทาง รับทราบและทำความเข้าใจถึงมาตรการกำหนดอายุรถตู้ 10 ปี ซึ่งเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 53 เนื่องจากได้พิจารณาด้านสภาพรถที่เก่าเครื่องอุปกรณ์ชำรุดจะมีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถใหม่ ทำให้เกิดความไม่คุ้มทุนและรถที่มีอายุเกิน 10 ปี บริษัทประกันภัยจะไม่รับจัดทำประกันภัยให้ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับเจ้าของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนรถอายุการใช้งานมากจะก่อให้เกิดปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ โดยผู้แทนกลุ่มรถตู้ได้รับทราบและยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการ

อย่างไรก็ตาม เพื่อการติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทาง ขนส่งทางบกพร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการเพียงพอ ไม่ให้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ คณะทำงานได้มีการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาและการสำรองรถ ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ในเบื้องเบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกได้ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถตู้โดยสารที่ให้บริการในเส้นทางอื่นที่มีปริมาณรถมากแบ่งมาเสริมในเส้นทางที่มีรถตู้ไม่เพียงพอตามสัดส่วน พร้อมทั้งจัดรถโดยสารปรับอากาศจำนวน 65 คัน เพื่อสำรองให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารในทันทีที่รถตู้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดย ขสมก. จะส่งรถโดยสารมาสำรองในพื้นที่ทั้ง 4 จุด เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 1 ต.ค. 61 เป็นต้นไป 

นอกจากนี้ ขนส่งทางบกได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง ณ บริเวณอาคาร 3 ชั้น 1 อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษาแนะนำกรณีรถตู้โดยสารประจำทางจะครบกำหนดอายุ 10 ปี และขั้นตอนการจดทะเบียนรถแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One stop service) เพื่อช่วยเหลือเจ้าของรถในกรณีที่มีความประสงค์ที่จะทำการเปลี่ยนรถทดแทนรถคันเดิมที่หมดอายุให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งจากตัวเลขการขอเปลี่ยนรถตู้ใหม่ที่ครบอายุการใช้งานขณะนี้พบว่า เจ้าของรถตู้คันเดิมได้แจ้งความประสงค์และยื่นขอเปลี่ยนรถกับ ขสมก.แล้วจำนวน 391 คัน.