นางสาวดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้แทนสมาชิกกลุ่มแท็กซี่ขนาดใหญ่หรือแท็กซี่แวน ประมาณ 50 คนได้รวมตัวกันชุมนุมเพื่อยื่นข้อเรียกร้องและเสนอปัญหากับทอท. โดยได้ยื่นข้อเรียกร้องขอปรับเพิ่มค่าเซอร์ชาร์จหรือค่าบริการจอดรอรับคนโดยสารที่สนามบินเพิ่มขึ้นจากเที่ยวละ 50 บาท เป็นเที่ยวละ 100 บาท
โดยสาเหตุที่รถแท็กซี่ในสนามบินขู่หยุดวิ่งให้บริการ เนื่องจากปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิมีการอนุญาตให้รถแท็กซี่วีไอพีของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เข้ามาให้บริการภายในสนามบินตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. โดยให้เก็บค่าเซอร์ชาร์จเที่ยวละ 100 บาท สูงกว่าแท็กซี่แวนที่ได้เที่ยวละ 50 บาท ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะแท็กซี่ทั้ง 2 ประเภทมีบริการที่ไม่ต่างกัน และยังยื่นข้อเสนอให้กำหนดค่าโดยสารแท็กซี่เป็น 2 ราคา ระหว่างแท็กซี่แวนกับแท็กซี่ขนาดเล็ก เนื่องจากต้นทุนค่าน้ำมันแท็กซี่แวนสูงกว่า และยังขนคนโดยสารและกระเป๋าได้มากกว่าด้วย นอกจากนั้น ยังเสนอให้ ทอท.ปรับบทลงโทษกรณีไม่กดมิเตอร์โดยใช้วิธีจ้างเหมาเป็นโทษหยุดพักรถชั่วคราว ไม่ใช่เพิกถอนการให้บริการในสนามบิน เพราะค่าโดยสารปัจจุบันต่ำเกินจริงทำให้ขาดทุน ขณะที่แท็กซี่วีไอพีจ้างเหมาได้ หากเกินกว่า 300 กม.
“ทอท.ได้เชิญฝ่ายทหาร ตำรวจ ขบ. ประชุมเพื่อหาทางออก ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ ทอท.ทำหนังสือไปยัง ขบ.ขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งออกประกาศปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จเป็น 100 บาท และจัดทำค่าโดยสารแท็กซี่เป็น 2 ประเภท ซึ่งกลุ่มแท็กซี่สุวรรณภูมินัดจะมาฟังคำตอบจาก ทอท. ในวันที่ 14 ก.ย. หากไม่ได้รับการตอบรับ แท็กซี่แวนสุวรรณภูมิและดอนเมืองจะพร้อมใจกันหยุดวิ่งในวันที่ 14 ก.ย. นี้เป็นต้นไป โดยที่สุวรรณภูมิ ไม่รวมดอนเมืองมีแท็กซี่ที่อาจจะหยุดวิ่งมากกว่า 1,000 คัน”.