มีประเด็นฮือฮากลายเป็น ข่าวพาดหัวตัวเท่าหม้อแกง
กรณีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระตุกเบรกแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ลอตใหญ่ 23 ลำ มูลค่า 1 แสนล้านบาท ของบริษัทการบินไทย
โดย สศช.ตีกลับให้ไปพิจารณาแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานะการเงินของบริษัทการบินไทยที่ขาดทุน ซ้ำซากติดต่อกันมาหลายปี
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การที่ “สศช.” แตะเบรกให้บริษัทการบินไทยกลับไปทบทวนแผนการลงทุนใหม่ ไม่ได้มีเป้าหมายจะให้ยกเลิกแผนซื้อเครื่องบินลอตใหม่ยกกระบิทั้ง 23 ลำ
แต่ต้องการให้บริษัทการบินไทย พิจารณารายละเอียดแผนการลงทุนให้รอบคอบทั้งระยะสั้นและระยะยาว
เพราะถ้าหากการบินไทยทำกำไรคุ้มค่าเงินลงทุนก็ดีไป
แต่ถ้าหากขาดทุนซ้ำอีกจะบาดเจ็บ สาหัสเกินเยียวยา
ถ้านับเฉพาะ 4 ปีย้อนหลัง การบินไทย ขาดทุนสะสมกว่า 60,000 ล้านบาท
ล่าสุด ไตรมาส 2 ปีนี้ ก็ยังขาดทุนอ่วมอรไท
ฉะนั้น การซื้อเครื่องบินใหม่ป้ายแดงลอตใหญ่ 23 ลำ เท่ากับการบินไทยต้องแบกหนี้เพิ่มอีกหนึ่งแสนล้านบาท
จึงต้องคิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบทุกแง่ทุกมุม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า ถ้าหากการบินไทยต้องการครองแชมป์สายการบินชั้นนำระดับโลก ให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจการบินแห่งใหม่ของโลกภายใน 20 ปี
การบินไทยก็จำเป็นต้องกู้เงินลงทุนซื้อเครื่องบินฝูงใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องบินโดยสารบางส่วนที่ถึงกำหนดปลดระวาง
เพราะการมีเครื่องบินใหม่ทันสมัยเพิ่มขึ้นอีก 23 ลำ จะดึงดูดผู้โดยสารให้ใช้บริการสายการบินไทยเพิ่มขึ้นแน่นอน สายการบินไทยจะพลิกกลับมามีกำไรเป็นกอบเป็นกำ
ไม่ขาดทุนซ้ำซากอย่างที่ผ่านมา
แต่ปัญหาคือ สายการบินไทย สายการบินต้นทุนสูง ขายตั๋วแพง จะสู้กับสาย การบินโลว์คอสต์ที่ยึดหัวหาดตลาดการบินทั่วโลกได้หรือไม่? และได้อย่างไร?
นี่คือเหตุผลสำคัญ ที่ สศช.สะกิดติ่งการบินไทยให้กลับไปพิจารณาทบทวนแผนการลงทุนให้รอบคอบอีกที
“แม่ลูกจันทร์” ขอแหย็มว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะขาดทุนหนักกว่าเดิม? การบินไทยควรแบ่งแผนการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ออกเป็น 2 ขบวน
ระยะที่ 1, สั่งซื้อเครื่องบินใหม่ 11 ลำ
และระยะที่ 2, ค่อยซื้อเพิ่มอีก 12 ลำ
วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงและความเสียวได้อีก 50 เปอร์เซ็นต์!!
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” ไม่แน่ใจว่าการรีบร้อนรวบรัดจะจัดซื้อเครื่องบินใหม่ลอตใหญ่ 23 ลำ เป็นแผนของการบินไทยเอง?
หรือมีใครในรัฐบาลแนะนำให้ ดำเนินการ?!
เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ผู้กำกับดูแลการบินไทย ไปพูดกับบอร์ดการบินไทยให้เร่งเสนอแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 23 ลำ โดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาขาดทุน
โดยเปรียบสายการบินไทยเหมือน “ทีมหมูป่าติดถ้ำ” ต้องเร่งช่วยให้ออกจากถ้ำก่อนอากาศจะหมดก่อนฝนจะมา
ไหนๆก็ช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำได้ครบ 13 ตัว
ต้องเร่งช่วยการบินไทยซื้อเครื่องบินใหม่ให้ครบ 23 ลำ
ช้าไม่ได้ รอไม่ได้ เสี่ยสั่งลุย.
“แม่ลูกจันทร์”