“ไพรินทร์” ตรวจการบ้านการบินไทย สั่งอุดรอยรั่วบริหารต้นทุนน้ำมัน-ลดขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ยกโมเดล ปตท.ตั้งศูนย์บริหารจัดการทางการเงินในต่างประเทศ “ดีดีบินไทย” คุยลั่น! นำพาบินไทยก้าวอย่างมั่นคง พร้อมแข่งดุ บริหารทรัพย์สินที่มีเพิ่มรายได้
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ปัจจุบันการบินไทยมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปในฐานะสายการบินแห่งชาติแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้ทำงานตามแผนฟื้นฟูที่เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ทั้งนี้มีปัญหาหลักที่ยังกระทบต่อการดำเนินงานของการบินไทย คือ การขาดทุนจากต้นทุนเชื้อเพลิง และอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารการบินไทยเร่งจัดทำแผนประกันความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว
“ปัญหาเหนือการควบคุมที่การบินไทยกำลังเผชิญ คือเรื่องต้นทุนเชื้อเพลิง และความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน เราก็จะต้องจัดการความผันผวนเหล่านั้นให้ได้ อย่างตัวพลังงานก็มีวิธีจัดการ วิธีประกันความเสี่ยงหลายแบบ อัตราแลกเปลี่ยนก็ด้วย แนะนำให้มองภาพใหญ่ เพราะการบินไทยมีหนี้หลายสกุลเงิน ซึ่งอาจจะใช้โมเดลของ ปตท.ที่จัดตั้งบริษัทบริหารอัตราแลกเปลี่ยนในสิงคโปร์”
ขณะเดียวกันยังให้คำแนะนำการบินไทยเดินหน้าธุรกิจแบบเป็นกลุ่มจะสร้างความเข้มแข็ง ซึ่งการบินไทยเองก็มีกลุ่มอยู่แล้ว คือ ไทยกรุ๊ป ประกอบไปด้วย สายการบินการบินไทย สายการบินไทยสมายล์ และสายการบินนกแอร์ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาแนวทางหลังจากนี้ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าการบินไทยจะเดินหน้าแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี
ส่วนแนวทางในการช่วยเหลือสายการบินนกแอร์ในฐานะไทยกรุ๊ปนั้น นายไพรินทร์กล่าวว่า ไม่ได้มีคำสั่งอะไรพิเศษ เพียงแต่มอบหมายให้บอร์ดตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุและผล เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารจะต้องตัดสินใจ ฝ่ายการเมืองจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงแต่มอบนโยบายที่ต้องการให้การบินไทยเดินหน้าไปได้อย่างเข้มแข็ง เช่นเดียวกับเรื่องการเพิ่มทุนนกแอร์ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือ ส่วนจะคงถือหุ้นในสายการบินทั้ง 2 สาย คือไทยสมายล์และนกแอร์เช่นเดิมหรือไม่ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป พร้อมมอบหมายให้บอร์ดตัดสินใจในเรื่องนี้เอง
สำหรับกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวและพายุซุปเปอร์ไต้ฝุ่นเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น ยอมรับว่า การบินไทยได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นปีละจำนวนมากและไปกันทุกเมือง ดังนั้นในช่วงที่มีเหตุการณ์รายได้ของการบินไทยอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง
ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล ได้มอบโจทย์ให้การบินไทยต้องมีอยู่ และอยู่อย่างรุ่งเรือง แต่เนื่องด้วยบริษัทเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีทั้งบอร์ด ฝ่ายบริหาร พนักงาน และประชาชน ดังนั้นต้องพิจารณาผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทุกฝ่าย โดยทางออกของการดำเนินธุรกิจอาจไม่หวังเพียงกำไร แต่ต้องพิจารณาความมั่นคง และการอยู่อย่างยั่งยืนด้วย
นายสุเมธ กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งดีดีการบินไทย ในการทำงานก็ต้องเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูการบินไทย เนื่องจากแผนได้มีการออกแบบที่ดีอยู่แล้ว โดยกระทรวงคมนาคมในฐานะผู้กำกับได้มอบหมายให้การบินไทยต้องเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าธุรกิจการบินมีการแข่งขันรุนแรงแบบเต็มรูปแบบ ตอนนี้การบินไทยไม่มีแล้วบุญเก่า ต้องแข่งขันด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทรัพย์สินของการบินไทยที่ดีและมีค่ามากที่สุดคือ เส้นทางการบิน ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ทรัพย์สินที่มีสามารถสร้างรายได้มากขึ้น ส่วนทรัพย์สินที่ไม่ใช่เส้นทางบิน เช่น ตึก อาคาร ที่ไม่เกิดประโยชน์ก็ต้องมาดูต่อไปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
“อย่ามาคาดหวังอะไรกับการที่คนจำนวนมากยังทำไม่ได้ แล้วมากดปุ่มผมให้ทำให้สำเร็จ ภายใน 7 วัน หรือใน 4 เดือนนี้ ซึ่งความหมายคือมันจะเป็นไปไม่ได้” นายสุเมธกล่าว.