ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผย นายกรัฐมนตรีเยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศส ท่องเที่ยวได้อานิสงส์ คาดว่าครึ่งปีหลังเที่ยวไทยมาแรง จากการที่เหตุสถานการณ์โลกชื่นมื่นระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ และปลดล็อกสหภาพยุโรป
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2561 นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยขณะนี้ว่า จากผลการเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ช่วงวันที่ 20-26 มิถุนายน 2561 รวมถึงการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ก่อนหน้านี้ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการที่สหภาพยุโรปมีมติข้อผ่อนปรนให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าสานต่อความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้ รวมถึงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านของไทย ที่ได้มีการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มมากขึ้น นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เอื้อต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งโลกให้เข้ามาในประเทศไทย แม้ว่าบริบทการต่างประเทศจะมีการแข่งขันกันสูงมากในปัจจุบัน แต่ประเทศไทยยังคงดำเนินนโยบายได้อย่างสมดุล โดยมีปฏิสัมพันธ์กับนานาประเทศ และได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกเป็นอย่างดี
นายพงษ์ภาณุ เปิดเผยด้วยว่า จากการที่สถานการณ์โลกในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นมากในเรื่องสันติภาพภายหลังการประชุมเจรจาของผู้นำสองประเทศคือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและนายคิม จอง อึน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ส่งผลให้บรรยากาศความเชื่อมั่นเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ประกอบกับการเดินทางเชื่อมความสัมพันธ์กับมิตรประเทศของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าทุกประเทศล้วนให้ความสนใจประเทศไทย มองเห็นโอกาสและความร่วมมือกับไทยโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังคงดำเนินการตามแนวทางที่ผ่านมา คือการให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเพื่อกระจายความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ การพัฒนาสินค้า, บริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านคุณภาพแทนการแข่งขันด้านราคา, การให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนเพื่อรักษาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงได้มีมาตรการในการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยโดยจะแยกเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ และในประเทศ ทั้งนี้การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในประเทศนั้น กระทรวงฯ เน้นในการให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด เพื่อกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้สู่ชุมชน
ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของปีหากสถานการณ์ปกติ และไม่มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ใกล้เคียงกัน และเชื่อได้ว่าปี 2561 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ภาคการท่องเที่ยวมีการเติบโตที่ดี ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ จึงขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคนเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก นายพงษ์ภาณุ กล่าวทิ้งท้าย.