อคส.ลงพื้นที่ราชบุรีตรวจ 2 บริษัทชนะประมูลข้าวสต๊อก รัฐ 1.1 ล้านตัน พบพิรุธใช้ข้าวผลิตอาหารสัตว์ไม่สอดคล้องความจริง ทำให้เหลือข้าวส่วนเกินมาก สั่งแจ้งข้อมูลบัญชีใหม่ ชี้หากมีการนำข้าวใช้ผิดประเภทเตรียมเล่นงานทางกฎหมาย
พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผยว่า คณะผู้บริหาร อคส.ลงพื้นที่ตรวจสอบ 2 บริษัทในจังหวัดราชบุรี ที่ชนะการประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเพื่อเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคของคน (ข้าวกลุ่ม 2) ครั้งที่ 1/60 พบว่า ทั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท วี.ซี.เอฟ.กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เอส.พี.เอ็ม. จำกัด จ.ราชบุรี มีข้อมูลทางบัญชีของการนำข้าวสต๊อกรัฐบาลที่ชนะการประมูล ไปผลิตในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น นำข้าว 10,000 ตัน ไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ได้จำนวนน้อยกว่าความเป็นจริง ทำให้เหลือข้าวส่วนเกินมาก ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงว่าข้าวส่วนเกินนี้จะนำไปใช้ผิดแผนที่แจ้งไว้ หรือไม่ได้นำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์จริง จึงได้สั่งการให้ทั้ง 2 บริษัท ส่งข้อมูลทางบัญชีให้ อคส.ตรวจสอบใหม่อีกครั้ง
“การตรวจพบความผิดปกติของ 2 บริษัท โดยทาง อคส.ได้ดูตัวเลขทางบัญชีใน 3 ส่วน คือ ข้อมูลจำนวนข้าวสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่ ข้อมูลบัญชีที่แจ้งไว้กับกรมสรรพากร และข้อมูลบัญชีการผลิตอาหารสัตว์ที่แจ้งกับกรมปศุสัตว์ ปรากฏว่าไม่สอดคล้องกัน เบื้องต้นอาจเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงภาษี แต่เพื่อให้เกิดความแน่ชัด จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบใหม่ว่านำข้าวไปใช้ผิดประเภทหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ อคส.กังวลว่าข้าวจะวนกลับเข้ามาในระบบการค้าปกติ หากเป็นเช่นนั้นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา และประสานไปยังกรมสรรพากรตรวจสอบเอกสารย้อนหลังทั้งหมด” พล.ต.ท.ไกรบุญกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท เอส.พี.เอ็ม. อาหารสัตว์ ประมูล ข้าวสารสต๊อกรัฐบาลได้ 383,000 ตัน รับมอบ แล้ว 364,000 ตัน จ่ายออกผลิตอาหารสัตว์ 356,000 ตัน มียอดคงเหลือ 8,258 ตัน ส่วนบริษัท วี.ซี.เอฟ.กรุ๊ป ประมูลได้ 757,000 ตัน รับมอบ 324,000 ตัน จ่ายออกปรับปรุงเพื่อขาย 99,800 ตัน ผลิตอาหารสัตว์ 195,000 ตัน คงเหลือ ข้าว 29,000 ตัน รวมทั้ง 2 บริษัทชนะการประมูลข้าว 1.14 ล้านตัน
พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวว่า สำหรับบริษัทอื่นๆ ที่ชนะการประมูลข้าวในรอบเดียวกันนั้น ไม่มีปัญหา โดยบริษัท กาญจนาอาหารสัตว์ จำกัด ประมูลได้ 38,900 ตัน รับมอบ 36,900 ตัน จ่ายออกผลิตอาหารสัตว์ครบไม่มียอดคงเหลือ และบริษัท ว.ธนทรัพย์ จำกัด ประมูลได้ 153,000 ตัน รับมอบ 25,700 ตัน จ่ายออกผลิตปุ๋ย 9,684 ตัน มียอดคงเหลือ 16,000 ตัน
“ยืนยันว่า อคส.จะตรวจสอบบริษัทที่ชนะ การประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมว่าใช้จริงตามแผนที่แจ้งไว้หรือไม่ ข้อมูลสอดคล้องกันหรือไม่ เพื่อไม่ให้ข้าวไหลวนมาระบบปกติ ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา และเอกชนที่ชนะการประมูล มีการรับมอบข้าวตามสัญญา ส่วนการทิ้งสัญญาล่าสุดที่ตรวจสอบยังไม่พบผู้ชนะการประมูลรายใดทิ้งสัญญากับ อคส.” พล.ต.ท.ไกรบุญกล่าว
ส่วนการที่กระทรวงพาณิชย์จะเปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะข้าว กลุ่มที่ 2 หรือข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคของคน ปริมาณ 1.48 ล้านตัน และข้าวกลุ่ม 3 หรือข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภค ของคนและสัตว์ ปริมาณ 540,000 ตันนั้น อคส.จะยังคงคุมเข้มการขนส่งข้าวจากคลังสินค้าไปยังโรงงานของผู้ซื้ออย่างเข้มงวด รวมถึงต้องกำหนดให้ผู้ชนะการประมูลส่งแผนการใช้ข้าวทั้งหมดมาให้ อคส.ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้นำข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมมาเข้าสู่ระบบการค้าปกติ หรือการเข้าสู่ตลาดผู้บริโภค.