‘พาณิชย์’ สุดปลื้ม สหรัฐฯ ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ มาสู่ประเทศที่ถูกจับตามอง ดีขึ้นรอบ 10 ปี ยันทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น ลงทุนไทยมากขึ้น..
วันที่ 16 ธ.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (ยูเอสทีอาร์) ได้ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ จากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (พีดับบลิวแอล) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (ดับบลิวแอล) หลังจากที่ได้จัดให้ไทยอยู่ในบัญชีพีดับบลิวแอล ตั้งแต่ปี 50-60 ก่อนที่ยูเอสทีอาร์จะประกาศทบทวนสถานะของไทยนอกรอบ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.60
สำหรับการประกาศผลครั้งนี้ ยูเอสทีอาร์ ระบุว่า สหรัฐฯ ตระหนักถึงความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการพัฒนาด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในระดับสูง ภายใต้คณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน
อีกทั้งมีการดำเนินการอย่างจริงจังจนเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามการละเมิดในท้องตลาด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามการละเมิดอย่างเข้มงวด และกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการอย่างจริงจังจนการละเมิดได้หมดสิ้นไปในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือน ก.ค.60 เป็นต้นมา รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อออกตรวจตราจับกุมใน 5 ย่านการค้าสำคัญ คือ ศูนย์การค้ามาบุญครอง ตลาดนัดจตุจักร ตลาดโรงเกลือ (จังหวัดสระแก้ว) หาดป่าตอง และหาดกะรน (จังหวัดภูเก็ต)
นอกจากนี้ ยูเอสทีอาร์ ยังเห็นถึงความพยายามของไทยในการแก้ไขข้อกังวลของภาคเอกชนสหรัฐฯ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาโดยตรง รวมทั้งการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่จะยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่งแต่สามารถขอรับความคุ้มครองได้ในประเทศสมาชิกหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม การที่ไทยได้รับการปรับสถานะให้ดีขึ้น จะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนของประเทศในสายตาของผู้ค้าและนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่มีการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการขับเคลื่อนธุรกิจ นอกจากนี้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สหรัฐฯ พิจารณาในการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ซึ่งสหรัฐฯ ให้แก่ประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงไทยด้วย.