ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้เห็นชอบให้ผู้บริหารทีโอทีไปเจรจากับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส อีกครั้ง เกี่ยวกับเงื่อนไขการค้ำประกันตามสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายมือถือภายในประเทศ (โรมมิ่ง) บนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ และสัญญาการเช่าเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคม เพื่อให้เกิดความรอบคอบรัดกุม ก่อนการลงนามในสัญญาฉบับจริง
โดยขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตรวจร่างสัญญาแล้วเสร็จ และส่งคืนมายังทีโอที เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทีโอทีกับเอไอเอส สามารถลงนามในสัญญาฉบับจริงได้ทันที ที่ตกลงกันได้
ทั้งนี้ เอไอเอสได้เช่าใช้อุปกรณ์และคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จากทีโอที มาตั้งแต่ปลายปี 2558 และได้ทำสัญญาทดลองการให้บริการระหว่างกันเมื่อเดือน ก.ย.2559 ที่ผ่านมา โดยเอไอเอสจะต้องชำระค่าใช้อุปกรณ์และใช้คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ให้ทีโอที เป็นรายเดือน เดือนละ 810 ล้านบาท ไปจนกว่าจะมีการลงนามในสัญญาฉบับจริง ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาฉบับจริงได้ภายในเดือน ธ.ค.2560 หรืออย่างช้าภายในต้นปี 2561 นี้
ส่วนความคืบหน้าในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด บนคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญาจากสำนักงานอัยการสูงสุด คาดว่าจะส่งร่างสัญญากลับมายังทีโอทีได้ในเร็วๆนี้ สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างทีโอทีกับดีแทคนั้น จะเป็นการให้บริการ 4 จี ภายใต้คลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 60 เมกะเฮิรตซ์ โดยทีโอทีได้เสนอแผนธุรกิจให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พิจารณาแล้ว คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในเดือน ธ.ค.นี้.