ปัจจุบันรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของโลกได้เปลี่ยนแปลงไป จากงานแสดงสินค้ารายประเภท เปลี่ยนมาเป็นงานที่นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภทมากขึ้นในงานเดียว ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ซื้อและผู้นำเข้าที่ต้องการลดระยะเวลาและภาระในการเดินทางมาสั่งซื้อสินค้า
ด้วยเหตุนี้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึง ได้ยกระดับงานแสดง สินค้าไลฟ์สไตล์ที่แยกประเภท 3 งาน ได้แก่ งานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง (BIFF&BIL) งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (BIG+ BIH) และงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (TIFF) มาจัดรวมไว้ในที่เดียว
ซึ่งการปรับรูปแบบงานในลักษณะนี้ นอกจากจะตอบรับกับความต้องการของผู้ซื้อและผู้นำเข้าแล้ว ยังเป็นการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในด้านงานแสดงสินค้า รวมทั้งยังเป็นการขยายโอกาสของผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยในการพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อและผู้นำเข้าที่หลากหลายมากขึ้น
สำหรับงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่นี้ จะจัดขึ้นภายใต้ชื่อ “STYLE” ซึ่งนอกจากความยิ่งใหญ่จากการรวมพลังของผู้ประกอบการที่พร้อมใจกันมาร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,000 บริษัท กว่า 2,100 คูหาแล้ว งานนี้ยังนับว่าเป็นการสร้างมิติใหม่ของงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรที่สุด เพราะจะเป็นครั้งแรกที่ผู้ซื้อจะได้พบกับผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น เครื่องหนัง ของขวัญ ของใช้ในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ อย่างครบครัน กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 ต.ค.2560 โดยวันที่ 17-19 ต.ค. เป็นวันเจรจา ธุรกิจ วันที่ 20-21 ต.ค. เป็นวันจำหน่ายปลีก ครอบคลุมเต็มพื้นที่ฮอลล์ใหม่ กว่า 40,000 ตร.ม. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า งานแสดงสินค้ารูปแบบใหม่นี้ จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การตลาด และการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย โดยกรมตั้งเป้าหมายที่จะทำให้งานนี้เป็นงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติเป็นที่รู้จักของผู้ซื้อและผู้นำเข้าทั้งในและต่างประเทศ
เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยขยายตลาดไปยังต่างประเทศ สามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออก สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่ง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.2560) สินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยมีมูลค่าการส่งออกถึง 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 175,000 ล้านบาท โดยคาดว่า ตลอดทั้งปี 2560 สินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากปีที่ผ่านมา จากในปี 2559 มีมูลค่าการส่งออกของกลุ่มนี้อยู่ที่ 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 314,000 ล้านบาท และงาน STYLE ที่กำลังจะจัดขึ้นก็จะมีส่วนผลักดันให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 2,000 ล้านบาท
“งานนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ค้าและผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ได้ขยายฐานลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันได้มากขึ้น และตอบโจทย์ผู้ซื้อเป้าหมาย ทั้งกลุ่มผู้ค้าปลีก คอนเซปต์สโตร์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนจัดซื้อของต่างประเทศ นักออกแบบ มัณฑนากร สถาบันการออกแบบต่างๆ ห้างสรรพสินค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในวงการแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากประเทศต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจและเข้าชมงานกว่า 60,000 ราย”
นางจันทิรากล่าวว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เป็นไฮไลต์ในงานคือ นิทรรศการด้านการออกแบบและโชว์เคสต่างๆ ซึ่งปีนี้นับว่ายิ่งใหญ่และมีความหลากหลายกว่าทุกงานที่เคยจัดมา นิทรรศการต่างๆล้วนมีความน่าสนใจ ซึ่งถือว่าเป็นเวทีโชว์สุดยอดไอเดียงานสร้างสรรค์ โดยเปิดให้เข้าชมฟรี อาทิ แนวโน้มแฟชั่นปี 2018, QURATED Fashion Incubation Project, T-STYLE, Talent Thai 2017, Designers’ Room 2017, OTOP, 60+, Pet Product, Metro Men, แม่และเด็ก, โครงการส่งเสริมสมุนไพรไทย และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร, I+D Style café, Design of the year, Mc Smart นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาภายใต้โครงการส่งเสริมการตลาด Licensing Characters รวมทั้งยังมีบริการต่างๆ เพื่อให้งานนี้ครบวงจรมากที่สุดทั้ง DITP SERVICE CENTER ที่รวบรวมบริการต่างๆของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมาไว้ ณ จุดเดียว, Thaitrade.com การจับคู่เจรจาธุรกิจ และศูนย์ให้คำปรึกษาด้านโลจิสติกส์การค้า เพื่ออำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ครบวงจรแก่ผู้ประกอบการและผู้ซื้อภายในงานเรียกว่ารูปแบบที่ปรับเปลี่ยนมาจะตอบโจทย์ผู้ซื้อและผู้นำเข้าได้ตรงจุดและเพิ่มโอกาสของผู้ส่งออกไทยให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น!!
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th