ธปท.ชี้มาตรการรัฐ-ท่องเที่ยวช่วยดันเศรษฐกิจม.ค.ดูดีขึ้น ธุรกิจกังวลไทยโตช้ากำลังซื้อยังวูบ

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงเศรษฐกิจในเดือน ม.ค.ว่า เศรษฐกิจในเดือนม.ค.มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.2% จากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้รายรับจากการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น 2.5% ขณะการบริโภคภาคเอกชนที่ดีขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 0.3% จากระยะเดียวกัน 1.1% จากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกหมวด จากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ผลของมาตรการของภาครัฐ ทั้งมาตรการลดฝุ่น มาตรการอีซี อี-รีซีท และมาตรการแจกเงินหมื่น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นแต่ยังกังวลค่าครองชีพ และเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ช้า

ขณะที่ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวดีขึ้น 1.8% โดยได้รับผลดีจากมาตรการภาครัฐด้วย แม้ภาพรวมยังติดลบ 0.9% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน การส่งออกปรับเพิ่มขึ้น 12.9% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.5% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การลงทุนภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น 7.8% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.5% เทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ดีขึ้น ขณะที่หมวดการก่อสร้างยังทรงตัว ตามการก่อสร้างหมวดเพื่อการพาณิชย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย ขณะที่ความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคธุรกิจในเดือนม.ค.ลดลงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังช้าในทุกหมวด ยกเว้นภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น การว่างงานโดยรวมยังไม่น่าเป็นห่วง แต่ต้องติดตามการจ้างงานในภาคก่อสร้าง และภาคการผลิตในกลุ่มยานยนต์อย่างใกล้ชิด

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นที่ 1.32% จากกลุ่มราคาอาหารสด ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.83% จากราคาอาหารสำเร็จรูป และค่าเช่าบ้านที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาค่าโดยสารลดลงจากมาตรการรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรีของรัฐบาล “มองไปข้างหน้า การท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้นต่อเนื่องทำให้เกิดแรงส่งในการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ต้องติดตามนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อการส่งออกของไทย และทั่วโลก ภาคการผลิตยังได้รับปัจจัยกดดันเชิงโครงสร้าง และการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่วนการค้าในประเทศ ผู้ประกอบการกลุ่มค้าปลีกยังคงกังวลกำลังซื้อในประเทศที่ยังชะลอตัว โดยภาคธุรกิจกังวลเศรษฐกิจไทยขยายตัวช้า โดยธปท.จะติดตามภาวะเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐในระยะต่อไป”