ร้องประกันราคาข้าวตันละ 1.2 หมื่น ชาวนาไม่พอใจรัฐออกแถลงการณ์ให้ทบทวน 5 ประเด็น

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ร้องประกันราคาข้าวตันละ 1.2 หมื่น ชาวนาไม่พอใจรัฐออกแถลงการณ์ให้ทบทวน 5 ประเด็น

Date Time: 22 ก.พ. 2568 10:24 น.

Summary

  • ชาวนาชี้มาตรการรัฐยังไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกร และอาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย มีความไม่พร้อมเรื่องสถานที่ของผู้ประกอบการ ออกแถลงการณ์ร้องรัฐพิจารณาใหม่ พร้อมเสนอ 5 ประเด็น ให้ประกันราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละ 12,000 บาท

Latest

ธนาคารกรุงเทพ จัดงาน “Bangkok Bank Fair” ชวนช้อปฉ่ำ กระตุ้นเศรษฐกิจ รับสิทธิ์ Easy E-Receipt

ชาวนาชี้มาตรการรัฐยังไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกร และอาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย มีความไม่พร้อมเรื่องสถานที่ของผู้ประกอบการ ออกแถลงการณ์ร้องรัฐพิจารณาใหม่ พร้อมเสนอ 5 ประเด็น ให้ประกันราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละ 12,000 บาท ขอไร่ละ 1,000 คงเดิม ขอเงินค่างดเผาตอซังฟางข้าว ไร่ละ 500 บาท และขอให้สิทธิ์กับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวไปแล้วด้วย

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยถึงมาตรการพยุงราคาข้าวเปลือกนาปรังปี 68 ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.ด้านการตลาด) ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 20 ก.พ.68 ว่า ทั้ง 3 มาตรการมีข้อจำกัด และขีดความสามารถของการใช้งบประมาณ อีกทั้งยังอาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย รวมถึงความไม่พร้อมเรื่องสถานที่ของผู้ประกอบการ เช่น สหกรณ์ที่จะร่วมโครงการรับฝากเก็บ และที่สำคัญมาตรการต่างๆไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกร

ดังนั้น จึงออกแถลงการณ์เรียกร้องให้อนุ นบข.ด้านการตลาด ทบทวนและวางมาตรการใหม่ตามที่เกษตรกรร้องขอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเสถียรภาพของรัฐบาล ดังนี้

1.ขอให้ภาครัฐพิจารณามาตรการประกันราคาข้าวเปลือกเจ้าในฤดูนาปรังปีการผลิต 68 โดยความชื้นไม่เกิน 15% ราคาไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท/ตัน และความชื้นไม่เกิน 25% ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน

2.พิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีงดเผาตอซังฟางข้าว ไร่ละ 500 บาท ตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่ขึ้นทะเบียนไว้ 3.ควบคุมปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา และน้ำมันเชื้อเพลิง 4.พิจารณาหาแนวทางชดเชยพื้นที่เกษตรกรที่ใช้เป็นทุ่งรับน้ำตามที่ร้องขอ 5.พิจารณาโครงการไร่ละ 1,000 คงเดิม เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทั้งนี้ ขอให้ภาครัฐพิจารณาให้สิทธิ์กับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวไปแล้วในทุกมาตรการอย่างเท่าเทียมกัน

“มาตรการช่วยเหลือที่นำเสนออนุ นบข.ด้านการตลาด เมื่อวันที่ 20 ก.พ.68 ฝ่ายเลขาเป็นผู้นำเสนอ ไม่ใช่ข้อเสนอของสมาคม โดยเฉพาะมาตรการที่จะให้สหกรณ์รับซื้อหรือรับฝาก ซึ่งมีข้อจำกัดถึงขีดความสามารถและจำนวนสหกรณ์ แต่น่าจะมีการเอาโรงสีมาเข้าโครงการ ซึ่งจะได้ค่าการจัดการ 500 บาท/ตัน และชดเชยดอกเบี้ยอีก 6% โดยทุกฝ่ายทราบว่า สมาคมได้ท้วงติงไปหลายประเด็น แต่ก็ยังมีมติออกมา ทั้งๆที่มาตรการทั้งหมดไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นของสมาคม หรือของชาวนาที่ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเลย”

สำหรับมติที่ประชุมอนุ นบข.ด้านการตลาดเมื่อวันที่ 20 ก.พ.68 มีดังนี้ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ระยะเวลา 1-5 เดือน ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13 ล้านบาท 2.เปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก รัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท โดยให้ผู้ประกอบการช่วยซื้อในราคานำตลาด 300 บาท/ตัน เป้าหมาย 300,000 ตัน งบประมาณ 150 ล้านบาท

3.ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าว เช่น โรงสี สหกรณ์การเกษตร ฯลฯ ในการเก็บสต๊อกข้าว ช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการ 6% เก็บสต๊อก 2-6 เดือน โดยให้ซื้อราคานำตลาดไม่ต่ำกว่า 200 บาท/ตัน เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40 ล้านบาท รวม 1,893.53 ล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานพิจารณาภายในเดือน มี.ค.68 หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป คาดมาตรการจะเริ่มใช้จริงต้นเดือน มี.ค.68
ส่วนข้อเสนอของชาวนาที่ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องไม่เผา

ตอซังข้าว ลดต้นทุนปัจจัยการผลิต การเสียสละนาข้าวเป็นพื้นที่รับน้ำนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมอนุนบข.ด้านการผลิต ที่มี รมว.เกษตรฯ เป็นประธาน ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของ นบข. และ ครม.ต่อไป.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ