ลดเป้าจีดีพีปี 67 เหลือโต 2.4% ส่งออกหด-สินค้าเกษตรเสียหายจากภัยแล้ง

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ลดเป้าจีดีพีปี 67 เหลือโต 2.4% ส่งออกหด-สินค้าเกษตรเสียหายจากภัยแล้ง

Date Time: 30 เม.ย. 2567 07:40 น.

Summary

  • คลังหั่นเป้าจีดีพีปี 67 ใหม่ เหลือโต 2.4% จากเดิม 2.8% เหตุส่งออกหด–ภัยแล้งกระทบผลผลิตสินค้าเกษตร หวังแจกเงินดิจิทัล ดันจีดีพีเฉพาะไตรมาส 4 ปีนี้โต 3.3% ด้าน “จุลพันธ์” ประชุมอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เคาะเกณฑ์สินค้านำเข้าที่ไม่เข้าข่ายใช้จ่ายได้ พร้อมเร่งรัดหน่วยงานรัฐเบิกจ่ายงบปี 67

Latest

“อุตสาหกรรมแบตเตอรี่”  จิ๊กซอว์ที่ต้องต่อให้เต็ม สานฝันไทย “ฮับผลิต EV” ภูมิภาค

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงการณ์ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 ว่า กระทรวงการคลังปรับประมาณการเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ใหม่ เหลือขยายตัว 2.4% โดยมีช่วงคาดการณ์ 1.9-2.9% จาก 2.8% ที่ประเมินการไว้เมื่อเดือน ม.ค.67 เป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 66 ที่เพียง 1.9% สำหรับปัจจัยที่ทำให้ปรับลดประมาณการครั้งนี้ มาจากการส่งออกสินค้าไตรมาสแรกหดตัวมากกว่าที่คาด โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรม,การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลง, ภาคเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและเอลนีโญ และภาคการคลังที่ยังคงใช้การเบิกจ่ายตามงบประมาณปี 66 ไปพลางก่อน

ขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในประเทศอยู่ในระดับมั่นคง คาดว่า เงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 0.6% ตามการลดลงของราคาสินค้าอาหารบางกลุ่ม และราคาพลังงานลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ส่วนเสถียรภาพภายนอกประเทศนั้น ดุลบริการมีแนวโน้มเกินดุล 9,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.8% ของจีดีพีตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และหากเม็ดเงินจากโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาส 4 ปี 67 จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยปี 67 เพิ่มขึ้นเป็น 3.3%

ส่วนภาคท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 35.7 ล้านคน สร้างรายได้ 1.59 ล้านล้านบาท ส่งผลดีต่อภาคท่องเที่ยว เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ประชาชน ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ทำให้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 3.7% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3.5% สำหรับการส่งออกสินค้า คาดขยายตัว 2.3% “ต่อจากนี้เม็ดเงินจากงบปี 67 จะเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเร่งขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี”

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยง ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เริ่มรุนแรงขึ้น ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก และปัญหาสถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญของไทย โดยเฉพาะจีน

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะนัดประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อหารือรายละเอียดโครงการ และหลังจากนี้จะหารือกันทุกสัปดาห์ สำหรับการประชุมครั้งนี้ จะหารือหลักเกณฑ์สินค้านำเข้าที่ไม่เข้าเงื่อนไขของโครงการ เพราะต้องการให้ประชาชนใช้จ่ายสินค้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้เกิดการผลิต จ้างงาน และสร้างรายได้ในประเทศ นอกจากนี้ยังจะหารือประเภทร้านค้าและดูข้อจำกัดในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งหารือเรื่องฐานข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานเป็นเจ้าของข้อมูล เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกัน

ขณะที่นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 และเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่าย ขอให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการ คือ เมื่อได้รับอนุมัติเงินจัดสรรแล้ว กรณีเป็นรายการที่ต้องดำเนินการหรือเบิกจ่ายโดยสำนักงานในส่วนภูมิภาค ให้เร่งส่งเงินจัดสรรไปยังสำนักงานส่วนภูมิภาคภายใน 5 วัน กรณีเป็นรายการปีเดียวให้กำหนดระยะเวลาการส่งมอบงานเร็วขึ้น เพื่อให้เบิกจ่ายได้ทันในเดือน ก.ย. ส่วนรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบที่เป็นรายจ่ายลงทุนรายการใหม่ ควรก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.67 เป็นต้น.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ