การค้าชายแดนไทย-เมียนมาลดลง

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการสู้รบในเมียนมา หลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลยึดเมืองเมียวดีว่า ขณะนี้การค้าชายแดนบริเวณด่านเมียวดี-แม่สอด จังหวัดตาก ยังเป็นปกติ ยังมีเจ้าหน้าที่ของเมียนมาประจำอยู่ที่ด่านเมียวดี อีกทั้งภาคเอกชนได้เตรียมความพร้อม กรณีเกิดปัญหาภายในของเมียนมามาตลอด โดยเฉพาะการเตรียมเส้นทางขนส่งสินค้าไว้หลายเส้นทาง มีด่านการค้าสำรองและจุดผ่อนปรนสำรองสำหรับการส่งออก-นำเข้าหลายจุด เช่น สินค้าบางส่วนย้ายจากด่านเมียวดีไปใช้ด่านแม่สาย จ.เชียงราย-ท่าขี้เหล็ก หรือไปใช้การขนส่งทางเรือที่ระนอง แหลมฉบัง อย่างสินค้าข้าวโพด ก็เปลี่ยนไปใช้ด่านระนองแล้ว ขณะนี้ต้องดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมาเดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 18,206 ล้านบาท ลดลง 10.89% เป็นไทยส่งออก 10,081 ล้านบาท ลดลง 12.17% และไทยนำเข้า 8,126 ล้านบาท ลดลง 9.25% ไทยได้ดุลการค้า 1,955 ล้านบาท โดยการค้าผ่านด่านแม่สอดมูลค่าสูงสุดที่ 7,835 ล้านบาท รองลงมาคือสังขละบุรี 5,861 ล้านบาท, ระนอง 2,444 ล้านบาท และแม่สาย 1,650 ล้านบาท ส่วนช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปี 67 อยู่ที่ 35,672 ล้านบาท ลดลง 11.41%

นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เชื่อว่าขณะนี้ กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและรัฐบาลเมียนมากำลังเจรจากันอยู่ สิ่งที่สังเกตได้ว่าเหตุการณ์จะเป็นไปในทิศทางลบหรือบวก คือการอพยพของข้าราชการระดับสูงของเมียนมา ถ้าไม่มีการอพยพเพิ่มเติม คงไม่น่าจะมี ปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น แต่หากมีการอพยพระลอกใหญ่จะต้องมีการโจมตีเกิดขึ้นแน่นอน แต่คิดว่าทุกฝ่ายคงไม่อยากจะสูญเสียผลประโยชน์จากการค้าชายแดนแน่นอน ซึ่งคิดเป็นเงินมหาศาลที่มากพอที่จะหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเมียนมาให้อยู่ได้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่