ความสำเร็จของ “สัปเหร่อ” ในมุมของ “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ”

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ความสำเร็จของ “สัปเหร่อ” ในมุมของ “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ”

Date Time: 24 ต.ค. 2566 07:22 น.

Latest

Credit Scoring กับการเติบโตของเศรษฐกิจ

“สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” ผู้ช่วย รมว.ศึกษาธิการและอดีต สส.ศรีสะเกษ สังกัดพรรคภูมิใจไทย น่าจะเป็นอีกคน ที่ยินดียิ่งกับความสำเร็จของบริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด เจ้าของภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ซึ่งกำลังทำรายได้สู่หลัก 400 ล้านบาท ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน (หนังเข้าโรงฉายทั่วประเทศเมื่อวันที่ 5 ต.ค.2566)

ย้อนเวลากลับไปราวปี 2560 สิริพงศ์ ในฐานะผู้กว้างขวางในจังหวัดศรีสะเกษ ตัดสินใจลงทุนในโปรเจกต์หนัง “ไทบ้านเดอะซีรีส์” ของ 4 หนุ่มชาวศรีสะเกษผู้ร่วมก่อตั้งไทบ้าน อันประกอบด้วย สุรศักดิ์ ป้องศร (ศักดิ์), อวิรุทธ์ อรรคบุตร (โอม), ศุภณัฐ นามวงศ์ (กัส) และบุญโชค ศรีคำ (จ๊อบ)

ก่อนหน้านั้นไม่นาน สิริพงศ์เคยให้เงินสนับสนุนโปรเจกต์จบการศึกษาของกลุ่มผู้ก่อตั้งไทบ้านมาก่อน รู้ฝีมือและชอบวิธีการนำเสนอที่เป็นธรรมชาติ เรียบง่าย ไม่ยัดเยียด

แต่ก่อนจะตัดสินใจลงเงินในจำนวนที่มากขึ้นถึง 2 ล้านบาท สำหรับการสร้างภาพยนตร์เรื่องแรก “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” สิริพงศ์ เล่าว่า เขาลองเข้าไปส่องโซเชียลมีเดียของกลุ่มไทบ้านขณะนั้นพบว่าน่าประทับใจมาก มียอดชม แชร์ ไลค์หลักล้าน

“จำได้ว่าตอนนั้น ผมลองคิดประโยคขำๆ “อกหักแต่บอกเมียไม่ได้” แล้วลองฝากให้พวกเขาโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย เพื่อจะได้เห็นยอด engagement ปรากฏว่าภายใน 10 นาที มียอดไลค์ 7,000 ยอดแชร์ 3,000 ครั้ง ผมจึงตัดสินใจ โดยต่อรองว่าแทนที่จะทำเป็นซีรีส์ ให้ลองทำเป็นภาพยนตร์ก่อนจะได้ทดลองตลาด ดูผลตอบรับ และที่สำคัญลงทุนน้อยกว่า”

ผลปรากฏว่า “ไทบ้านเดอะซีรีส์” ประสบความสำเร็จไม่เบา ทำรายได้ 37 ล้านบาท หักต้นทุนแล้วแบ่งครึ่งกับโรงหนัง ได้กำไรราว 10 กว่าล้านบาท สิริพงศ์เล่าว่า เขาได้รับข้อเสนอส่วนแบ่งจากกำไร แต่ปฏิเสธไป ขอรับแค่เงินทุนจำนวน 2 ล้านบาทคืน ด้วยเหตุนี้ สิริพงศ์จึงไม่อยากเรียกตัวเองว่านายทุน เพราะเขาไม่ต้องการส่วนแบ่งกำไร และต้องการสนับสนุนด้านการเงินเป็นครั้งคราวมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้สนับสนุนเงินทุนในยุคแรกและต่อเนื่องเมื่อจำเป็น ชื่อของสิริพงศ์จึงปรากฏอยู่ในเครดิตหนังของไทบ้านในฐานะผู้อำนวยการผลิตหรือ Executive Producer แทบจะทุกเรื่อง

สิริพงศ์ เล่าต่อว่า หลังจาก “ไทบ้านเดอะซีรีส์” ในปี 2560 หนังของไทบ้านเรื่องต่อมาในปี 2561 ทั้ง “ไทบ้านเดอะซีรีส์ Part 1” และ “ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2” ล้วนประสบความสำเร็จด้านรายได้ที่ 68 ล้านบาท และ 97 ล้านบาทตามลำดับ แต่เรื่องถัดมาอย่าง “ไทบ้าน x BNK48” “รักหนูมั้ย” และ “หมอปลาวาฬ” ทำรายได้ไม่สูงนัก ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด

ความสำเร็จเกินความคาดหมายของ “สัปเหร่อ” ภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ของจักรวาลไทบ้าน ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมธุรกิจผลิตหนัง มิวสิกวิดีโอ ซีรีส์ อีเวนต์ ไปจนถึงความพยายามที่จะก้าวไปสู่ธุรกิจดิจิทัล ทั้งเมตาเวิร์สและการออก Token จึงน่าจะทำให้ไทบ้านกลับสู่ยุคเฟื่องฟูได้อีกครั้ง

จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ บริษัทไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2562 ด้วยทุน 1 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้ 9,000 บาท ขาดทุน 6,000 บาท ปี 2563 มีรายได้ 6.3 ล้านบาท กำไร 600,000 บาท ปี 2564 มีรายได้ 12 ล้านบาท กำไร 1 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้ 18 ล้านบาท กำไร 500,000 บาท

หากจะให้วิเคราะห์ในฐานะผู้ชม ซึ่งติดตามดูหนังของไทบ้านทุกเรื่อง สิริพงศ์ มองว่า ความสำเร็จของ “สัปเหร่อ” มาจากพื้นหนังที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีการถอดบทเรียนจากหนังเรื่องก่อนหน้า แก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้น นำไปสู่การนำเสนอที่ครบรส ลงตัว และแน่นอนมาจากความสามารถของ “ต้องเต-ธิติ ศรีนวล” ผู้กำกับ ซึ่งขึ้นมากำกับหนังเรื่องนี้เต็มตัวเรื่องแรก จากที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เรียนรู้งานมาหลายเรื่องแล้ว

“สำหรับผม ไทบ้านไม่ใช่เพิ่งประสบความสำเร็จ พวกเขาทำสำเร็จตั้งแต่หนังเรื่องแรก นักแสดงของไทบ้านเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ดาราเบอร์ใหญ่ แถมงบโฆษณาก็มีจำกัด ความสำเร็จมาจากการนำเสนอล้วนๆ แต่สัปเหร่อคือจุดเริ่มต้นสู่ตลาดแมส (Mass) ที่กว้างขึ้นกว่าภาคอีสาน”

“ผมไม่รู้ว่าไทบ้านจะไปได้ไกลแค่ไหน จะไปถึงจุดที่ซีรีส์เกาหลีทำได้หรือไม่ แต่สำหรับผมในฐานะคนอีสาน คนที่ดูไทบ้านซึ่งถ่ายทำที่จังหวัดศรีสะเกษ ช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวไหม ความสำเร็จของสัปเหร่อช่วยสร้างที่ยืนและแรงบันดาลใจให้คนทำหนังระดับภูมิภาค เป็นที่รู้จักระดับประเทศหรือไม่ ช่วยสร้างความคึกคักให้กับโรงหนังภาคอีสานไหม ผมตอบได้ว่า เป็นแบบนั้น”

ศุภิกา ยิ้มละมัย

คลิกอ่านคอลัมน์ "THE ISSUES" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ