ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวและการช็อปปิ้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ร่วมกับผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าปลีกไทย เพื่อต้องการกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึงนี้ ที่รัฐต้องการให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวชูโรงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน
ทั้งนี้ การหารือยังมีตัวแทนจากกรมภาษีเข้าร่วม เพื่อใช้นโยบายทางภาษีมาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ต้องไปศึกษาหาวิธีการเข้ามา เช่น ลดหรือยกเว้นภาษีสินค้าแบรนด์เนม เพราะเศรษฐกิจไทยในเวลานี้ จำเป็นต้องการกระตุ้นครั้งใหญ่ อีกทั้งโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท กว่าจะได้ใช้ต้องรอไปถึงต้นปีหน้า ดังนั้นการท่องเที่ยวจะช่วยประคองเศรษฐกิจในช่วงระยะสั้นได้
สำหรับสินค้าที่เข้าข่ายจะลดหรือยกเว้นภาษี เบื้องต้นมีการศึกษาการลดภาษี กลุ่มแบรนด์เนม สินค้าลักชัวรีเป็นหลัก เช่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เสื้อผ้า เครื่องสำอาง แต่จะเน้นแบรนด์ที่เป็นกลุ่มไฮเอนด์เป็นหลัก เช่น แอร์เมส ปราดา หลุยส์ วิตตอง โรเล็กซ์ ซึ่งปัจจุบันเสียภาษีนำเข้าเฉลี่ย 30% หากลดลงมาก็ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาช็อปปิ้งในเมืองไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวได้
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า ได้ประชุมนัดแรกร่วมกับภาคเอกชนไปแล้ว เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวและการช็อปปิ้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหลักการคือ ต้องการออกมาตรการมากระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติรายได้สูงเข้ามาใช้จ่ายในไทยเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่ามาตรการจะออกมาเป็นอย่างไร จะต้องมีการหารือเพิ่มเติมก่อน แต่จะพยายามเร่งทำให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเริ่มใช้ทันภายในฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซันที่จะมาถึง.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่