“ธนากร” ยืนยัน จีนใหญ่เกินจะล้ม ย้ำจุดแข็ง มีเงิน คนเก่ง ทุจริตไม่มี

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“ธนากร” ยืนยัน จีนใหญ่เกินจะล้ม ย้ำจุดแข็ง มีเงิน คนเก่ง ทุจริตไม่มี

Date Time: 5 ต.ค. 2566 06:50 น.

Latest

“อุตสาหกรรมแบตเตอรี่”  จิ๊กซอว์ที่ต้องต่อให้เต็ม สานฝันไทย “ฮับผลิต EV” ภูมิภาค

ในมุมมองอันหลากหลายของผู้คน ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทย แต่รวมถึงบรรดานักวิเคราะห์ทั้งกูรู และกูรู้มากมายในต่างประเทศ ต่างก็ให้ความเห็นคล้ายๆกันว่า รัฐบาลจีนอาจเผชิญมรสุมทางเศรษฐกิจอย่างหนักจากการล้มละลายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มจากบริษัท เอเวอร์แกรนด์ คอร์ป ขอพิทักษ์ทรัพย์กับศาลล้มละลายกลาง

แต่ในมุมมองของนักธุรกิจไทยผู้คร่ำหวอดอยู่กับการทำธุรกิจในจีนมากว่า 43 ปี คุณธนากร เสรีบุรี รองประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร ในฐานะ นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนไทย-จีน ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องที่กลัวกันเกินไป

ในความเห็นของเขาประเทศใดประเทศหนึ่งจะพัง อาจมีหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดวิกฤติถึงขั้นนั้นได้ แต่ผมยืนยันว่า หลายๆสาเหตุเหล่านั้น ในประเทศจีนไม่มี ก็เพราะ 1.ประเทศจีนมีการวางแผนการพัฒนาประเทศมาเป็นอย่างดีมากและต่อเนื่อง โดยแผนของเขาตั้งแต่แผนฉบับที่ 1 จนถึงฉบับที่ 10 กว่ามานี้ เขาส่งไม้ต่อกันได้ตลอดในขณะที่ประเทศไทยเรามีปัญหา
2.จีนพัฒนาเรื่องของคนมาก เริ่มตั้งแต่สมัยตั้งประเทศใหม่ๆเริ่มตั้งแต่พวกอธิบดีกรมต่างๆก็แก่ อายุมาก เรียนหนังสือน้อย จบแค่มัธยม แต่เคยถือปืนต่อสู้กันมา เขาก็ตอบแทนกันให้คนเหล่านี้มีตำแหน่งหน้าที่ในการทำงานพวกนี้อาจจะขยันและซื่อสัตย์ แต่ไม่รู้โลกภายนอกเป็นอย่างไร มีแต่ความรักชาติ แต่ตอนหลังเขาเปลี่ยนจากคนแก่มาเป็นคนหนุ่ม เปลี่ยนจากคนการศึกษาต่ำมาเป็นการศึกษาสูง

“ทุกวันนี้ในเมืองจีน ผมคิดว่าเกือบทุกมณฑล ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเลขาธิการพรรคของมณฑลน่ะ ต้องปริญญาโทขึ้นไปไอ้ประเภทลูกทุ่งไม่มีแล้ว คนพวกนี้ อายุระหว่าง 45 ปีขึ้นไปจนถึง 55 ปี ผมคิดว่าเป็นคนในรุ่นที่ดีที่สุดที่มีความชำนาญและความรู้ ตั้งใจทำงานเต็มที่”

ข้อที่ 3 ที่พบก็คือผู้บริหารของรัฐบาลจีนขยันทำงานมาก ไปขอพบเมื่อใด เขาอนุญาตให้พบทันทีไม่เหมือนประเทศไทยเรา ต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ เสาร์อาทิตย์ก็นัดไม่ได้ แต่ที่จีนไม่มีวิธีการบริหารเศรษฐกิจ ประเทศเขาเริ่มจากการบริหารเงินตรา หลังเปิดประเทศ เขาก็เปิดให้มีเงินตราต่างประเทศเข้ามามากๆเขารับหมด เพราะเมื่อมีเงินตราต่างประเทศ เขาก็มีความสามารถในการซื้อความรู้ ซื้อเทคโนโลยีต่างๆ ให้กับประเทศได้

จากนั้นก็เปิดกว้างให้คนต่างชาติเข้าไปลงทุนในประเทศได้ โดยสิทธิประโยชน์ต่างๆให้มากกว่าคนจีนด้วยซ้ำ ถ้าเป็นประเทศเราก็ต้องลุกขึ้นมาโวยวายกันแล้ว เช่น จะขายคอนโดมิเนียมให้ต่างชาติ เขาก็จะว่าได้ว่าขายชาติแล้ว ผมว่า มันไม่ใช่ การเปิดให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนเช่นว่านี้ บางทีก็ไม่มีความเสียหาย ทำลายสิ่งแวดล้อม ไปกดขี่ใช้แรงงานจีนราคาถูก แต่เขาก็ต้องยอมเพราะต้องการเงินตราเข้าไปมากๆ

ในยุคที่ 3 ของการปกครองประเทศ เขาให้ข้าราชการเก่งๆลาออกไปทำธุรกิจเองโดยรัฐบาลให้การสนับสนุน เรียกว่า “ออกทะเล” พวกที่เก่งๆจึงออกจากราชการแล้วจากนั้นก็ไปตั้งบริษัทข้ามชาติ ไปซื้อโนว์ฮาว์จากต่างประเทศเข้ามา เมื่อธุรกิจใดเข้มแข็ง เขาก็ขอให้ธุรกิจนั้นๆ ให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจที่ยังอ่อนแอให้สามารถแข็งแกร่งขึ้นมาได้ในทุกๆเมือง และทุกๆมณฑล รัฐวิสาหกิจบางแห่งทำท่าไปไม่ไหว รัฐจะบอกขายแก่นักธุรกิจในราคาที่ถูกและมีข้อตกลงกันว่าได้กำไรแล้ว จะแบ่งรัฐได้สักเท่าใด

พวกที่ซื้อกิจการรัฐไป ก็จัดได้ว่าเป็นเถ้าแก่ และเถ้าแก่พวกนี้จะทำงานกันไม่มีวันหยุดเพื่อให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าขึ้น ผลคือ เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นในประเทศจำนวนมาก

“ฉันใดก็ฉันนั้น ชาวนาก็เหมือนกัน เคยทำนากันแบบเช้าชามเย็นชาม รัฐบาลจะเข้าไปจัดการเลยว่า ถ้าเหมาไร่นาไปทั้งหมด คุณทำได้ไหม ถ้าทำได้รัฐจะช่วยเหลือปุ๋ยให้ และเมื่อพวกคุณทำแล้วมีผลกำไร ก็แบ่งข้าวให้หลวงบ้าง จะได้เอาไปแจกคน ผลผลิตนาของจีนจึงเพิ่มขึ้นและปีหนึ่งทำได้ 3 รอบ”

คุณธนากร กล่าวถึงธุรกิจรถยนต์จีนด้วยว่า เมื่อเงินมีพร้อม รัฐบาลจีนก็เข้าไปซื้อกิจการของ MG ในเบอร์มิ่งแฮมเลย จากนั้นก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อย เพราะ MG มีโปรเฟซเซอร์อยู่มากถึง 300 คน อย่างนี้เป็นต้น

จะเห็นว่าการพัฒนาประเทศของจีนเป็นขั้นเป็นตอนต่อเนื่อง ไม่มีวันพังอย่างที่ใครพูดถึง ที่สำคัญก็คือ เมื่อเศรษฐกิจประเทศเดินมาถึงจุดที่แข็งแกร่ง รัฐบาลมีเงินมากพอ ประชาชนมีความรู้ความสามารถ และมีเทคโนโลยีที่ซื้อหาได้จากต่างประเทศ

รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จึงมีนโยบายจัดการเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน ปราบกันเต็มที่เพราะเขารู้ว่าถ้าประเทศมีคอร์รัปชัน ต้องล่มจมแน่ๆ เขาปราบกระทั่งเวลานี้

“ผมเข้าประเทศจีน ไม่ต้องซื้อของขวัญเข้าไป สมัยก่อนจะไปพบคนไหนต้องเตรียมของขวัญให้ ตอนนี้เขาโทร.มาหาว่า คุณจะมาวันไหน ไม่ต้องเอาของขวัญมานะ ไม่เช่นนั้นเขาต้องทำรายงานว่า รับอะไรจากคุณมาและรับทำไม ปัญหาคือ ผมยังต้องไปซื้อของขวัญตอบแทนคุณด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าระยะ 10 ปีหลังนี้ การคอร์รัปชันในจีนลดน้อยลงมาก”

คุณธนากรกล่าวต่อว่า ประเทศที่มีแผนการพัฒนาที่ดี สร้างคนมาพร้อม และสร้างเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าอย่างจริงจัง ไม่มีทางล่ม หรือล้มหรอก มันต้องไปต่อ ใครที่ว่าคอนโดฯ ห้องชุดมีเหลืออยู่ 600 ล้านยูนิตน่ะ เอาเข้าจริงๆ ถึงเวลาคนจีนออกมาใช้เงินล่ะก็ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ

“คุณรู้หรือไม่ว่า ทุกวันนี้ คนจีนเป็นประชากรที่เก็บออมสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกเฉลี่ยต่อหัวในปี 2022 สูงถึง 2,700 เหรียญสหรัฐฯ คนจีนเป็นคนเก็บออม ใช้เงินเป็น เวลาเศรษฐกิจมีปัญหา คนไม่ใช้เงิน รัฐบาลเวลานี้จึงปวดหัวกับการไม่ใช้เงินของคน”

นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนไทย-จีน กล่าวในตอนท้ายว่า จริงๆแล้ว ถ้าไปดูในมณฑล ใหญ่ๆบางมณฑลเศรษฐกิจดี GDP อาจขยายตัวได้สูงถึง 9% แต่บางมณฑลอาจขยายตัวเพียง 5% มณฑลที่มีการขยายตัวมากก็ต้องรับเอามณฑลที่อ่อนแอกว่าไปดูแลเป็นการช่วยรัฐบาลด้วย จึงอยากจะขอย้ำอีกครั้งว่า จีนไม่มีทางล้มหรอก.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ