ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จีนแตกฟาดหางต่อไทย

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ส่งผลกระทบต่อไทยว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนมีขนาดใหญ่มาก และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 29% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของจีน จึงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนอย่างมีนัยสำคัญ กระทบต่อตลาดแรงงาน ที่มีการจ้างงานในภาคก่อสร้างกว่า 62 ล้านตำแหน่ง กระทบต่อกำลังซื้อประชาชนและภาคค้าปลีก

สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย จากการวิเคราะห์ของ สนค. พบว่ากระทบ 2 ด้าน คือ ภาคการท่องเที่ยว เพราะทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัว กระทบต่อการบริโภค และการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน และส่งผลต่อเนื่องมายังการท่องเที่ยวของไทย ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวชาวจีน สัดส่วนมากถึง 28% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาไทย โดยช่วงเวลาปกติก่อนเกิดโควิด-19 หรือในปี 62 นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทย 11.1 ล้านคน สร้างรายได้ 530,000 ล้านบาท แต่ช่วงครึ่งแรกปี 66 มีเข้ามาเพียง 1.4 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังกระทบต่อการส่งออก เพราะกำลังซื้อของชาวจีนลดลง ต้องการซื้อสินค้าไทยลดลง โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย อีกทั้งการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การส่งออกสินค้าวัตถุดิบต่างๆ ลดลง ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เช่น เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในงานก่อสร้าง และเม็ดพลาสติก ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วน 18% และ 29% ของการส่งออกสินค้า 2 รายการของไทยไปโลกตามลำดับ อีกทั้งสินค้า 2 รายการ ยังเป็นสินค้าส่งออก 10 อันดับแรกของไทย ทำให้ช่วงครึ่งแรกปีนี้การส่งออกสินค้า 2 รายการไปจีนหดตัว 20.9% และ 26.9% ตามลำดับ.