เจ้าสัวซีพี ลั่น ศก.ไทยปีหน้า ดีกว่าปีนี้แน่ แต่ขึ้นกับรัฐบาล ดังนั้น ผู้นำต้องกล้าถึงพาไทยรอด

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เจ้าสัวซีพี ลั่น ศก.ไทยปีหน้า ดีกว่าปีนี้แน่ แต่ขึ้นกับรัฐบาล ดังนั้น ผู้นำต้องกล้าถึงพาไทยรอด

Date Time: 2 ธ.ค. 2565 08:13 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • เจ้าสัวธนินท์ ลั่น เศรษฐกิจไทยปีหน้า ดีกว่าปีนี้แน่ แต่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล พร้อมเผยสเปคผู้นำที่จะพาชาติไปข้างข้างได้ ต้องเป็นคนกล้า กล้าทำ กล้าตัดสินใจ

Latest


เจ้าสัวธนินท์ ลั่น เศรษฐกิจไทยปีหน้า ดีกว่าปีนี้แน่ แต่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล พร้อมเผยสเปกผู้นำที่จะพาชาติไปข้างหน้าได้ ต้องเป็นคนกล้า กล้าทำ กล้าตัดสินใจ

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้า ดีกว่าปีนี้แน่นอน โควิดได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่จะดีแค่ไหน มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ที่จะหาโอกาสในการดึงดูดทั่วโลกเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

หลังจากนี้ทุกอย่างจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพราะอย่างน้อยสถานีรถไฟ สนามบิน ท่าเรือต่างๆ ไม่ได้ถูกทำลายเหมือนสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ทั่วโลกประสบกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเมือง น้ำท่วม อากาศ แต่กลายเป็นว่า เป็นประโยชน์กับประเทศไทย เพราะทั่วโลกหันกลับมามองอาเซียน และไทย ที่เป็นศูนย์กลาง

“โอกาสมาแล้ว แต่ก็อยู่ที่รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นชุดเดิมหรือชุดใหม่ว่าจะช่วยทำอย่างไร ให้คว้าโอกาสตรงนี้ไว้ได้ ออกเงื่อนไขต่างๆ ดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน” ธนินท์ กล่าว

ทั้งนี้ในประเด็นที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการออกเงื่อนไขดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาลงทุน โดยอนุญาตให้ซื้อที่ดินในประเทศไทยได้นั้น ประธานอาวุโส CP มองว่า เป็นการสร้างประโยชน์ เพราะต่างชาติเอาเงินมาลงทุน ซึ่งดีกว่าการท่องเที่ยวที่มาแล้วกลับ ซึ่งเป็นการเดินทางระยะสั้น แต่นี่เป็นการมาลงทุน มาสร้างงาน สร้างเงิน เพราะอย่างไรก็ตามเขาซื้อแล้วก็นำกลับบ้านเขาไปไม่ได้ เพราะซื้อที่ดินซื้อบ้านปักหลักอาศัย

นอกจากนี้ยังควรที่จะดึงดูดกลุ่มสตาร์ทอัพจากทั่วโลกให้เข้ามาอยู่ที่ประเทศไทยด้วย โดยมองว่ารัฐบาลควรที่จะปลดล็อก ผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ให้เข้ามาง่ายขึ้น เพราะจะทำให้ประเทศไทยมีคนเก่งจากทั่วโลกมาอาศัยอยู่ มาใช้ชีวิตในเมืองไทย พร้อมทั้งสร้างงาน สร้างผลกำไรให้กับประเทศไทย ซึ่งการเข้ามานั้นไม่ได้เป็นการแย่งงานคนไทย เพราะงานต่างๆ เหล่านี้ประเทศไทยยังขาดคนที่เข้ามาช่วยทำด้วย อีกทั้งยังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอีก แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

ขณะที่เงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องผ่อนคลาย เพื่อดึงดูดและเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพนั้น ประธานอาวุโส CP มองว่า จริงๆ แล้วต้องดูถึงความต้องการของสตาร์ทอัพเป็นที่ตั้ง และดูว่าประเทศใดที่สตาร์ทอัพชอบไปอยู่ ศึกษาเงื่อนไขว่าเขาทำอย่างไร ประเทศไทยก็ดึงมาใช่ และเสริมให้ดีกว่า นำมาปรับปรุงเรียนรู้และต่อยอด

สำหรับบริบทการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ประธานอาวุโส CP มองว่า ประเทศไทยต้องคบกับทุกประเทศ ไม่ยุ่งเรื่องการเมือง แต่มุ่งเน้นไปที่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นมากที่สุด ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็ยังเป็นผู้นำเศรษฐกิจของโลก แต่ตลาดที่ยิ่งใหญ่นั้นอยู่ที่จีน แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดก็ยังอยู่ที่สหรัฐอมเริกา รวมถึงเรื่องการเงินด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีการสร้างสมดุลให้ได้

ประเทศไทยถือว่ามีโอกาสอยู่มากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามธนินท์ กล่าวทิ้งท้ายถึงคุณสมบัติของผู้นำที่จะพาประเทศคว้าโอกาสต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า จะต้องกล้าทำ กล้าตัดสินใจ เพราะทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

“วันนี้จะให้คนเห็นพ้องกันทุกคนนั้นไม่มีทาง ต้องมีการมองต่างมุมกัน เราบังคับให้คนอื่นมองเหมือนเราไม่ได้ แต่ถ้าเรามั่นใจว่าตรงนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่เพื่อส่วนรวม และขอให้ทำเพื่อประชาชน ผู้นำบางคนกลัวถูกโจมตี กลัวเสียชื่อเสียง แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ก็ต้องกล้าทำ ต้องมาเปลี่ยนแปลง เราไม่เปลี่ยนแปลงตามโลกที่เปลี่ยน เรายังมัวแต่ชักช้าก็ ถูกทิ้ง ไม่ว่าจะทำอะไร ขอให้ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อประชาชน สุดท้ายต้องเป็นคนที่กตัญญู เป็นคนดี และรู้จักตอบแทนคุณแผ่นดิน” ธนินท์ กล่าวทิ้งท้าย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ