เอเซียพลัสพานักลงทุน บินเจรจานักธุรกิจและสตาร์ตอัพ ระดับยูนิคอร์นในเวียดนาม มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ หาโอกาสต่อยอดการลงทุนและขยายธุรกิจ มองเวียดนามเป็นดาวเด่นมีการเติบโตของสตาร์ตอัพที่เป็นยูนิคอร์นอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทเอเซียพลัสได้นำลูกค้ารายใหญ่และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อีก 15 บริษัท เดินทางไปประเทศเวียดนาม เพื่อร่วมงานสัมมนาและพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจและนักธุรกิจรุ่นใหม่กลุ่มสตาร์ตอัพระดับยูนิคอร์นที่มีความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลของเวียดนาม โดยนักธุรกิจเหล่านี้ได้มาบรรยายถึงแนวความคิดที่มาของความสำเร็จ ภาพรวมธุรกิจและโอกาสในการลงทุน
รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อให้นักธุรกิจไทยได้เปิดโลกทัศน์การลงทุนและได้มีโอกาสเจรจากับนักธุรกิจเหล่านี้ เพื่อหาโอกาสในการต่อยอดและขยายการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเพราะได้เสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนและลูกค้าที่ร่วมทริป โดยนักลงทุนให้ความสนใจขอข้อมูลเพื่อเจรจาร่วมลงทุนกับกลุ่มธุรกิจของเวียดนามจำนวนหลายราย โดยเอเซียพลัสได้ประสานงานเพื่อให้ลูกค้าและกลุ่มนักลงทุนได้ต่อยอดขยายธุรกิจและเปิดโลกการลงทุนแบบไม่มีขีดจำกัด
“นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เป็นเจ้าของผู้ก่อตั้งกลุ่มสตาร์ตอัพระดับยูนิคอร์นด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลที่มาร่วมงานสัมมนาและเปิดแนวคิดความสำเร็จของธุรกิจภายในงานนี้ มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อาทิ Sky Marvis ผู้สร้างเกม Axie Infinity ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านบัญชี ระดมทุนผ่าน NFT กว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด หรือ BingX ผู้ผลิตเหรียญที่มีการซื้อขายกว่า 10,000 รายต่อวัน โดยมีมูลค่ามากกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และถูกจัดให้อยู่อันดับ 7 ในตลาดซื้อขายเหรียญ นอกจากนี้ยังมีการพาเยี่ยมชมโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ใจกลางธุรกิจ หนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญริมแม่น้ำไซ่ง่อน”
นอกจากนั้น ผู้บริหารสถาบันการเงินชั้นนำในเวียดนาม ยังมาร่วมบรรยายฉายภาพรวมความก้าวหน้าของทุกสาขาธุรกิจ รวมไปถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของประเทศและโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยการเติบโตของกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ อย่างสตาร์ตอัพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ถือเป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดที่ทำให้เวียดนามเป็นประเทศในภูมิภาคนี้ที่มีความโดดเด่น และน่าจับตามอง โดยมีแนวโน้มการเติบโตที่เร็วที่สุดในอาเซียนในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก รวมถึงได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐ จนถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีการเติบโตของสตาร์ตอัพ ที่เป็นยูนิคอร์นลำดับต้นๆของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนสตาร์ตอัพ ในตลาดเวียดนามมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง โดยดาวเด่น คือกลุ่มธุรกิจประเภท Digital Payment และ E-Commerce
“จากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง ทำให้เวียดนามสามารถเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆทั่วโลกได้ไม่ยาก รวมถึงการมีต้นทุนการผลิตที่ได้เปรียบกว่าหลายประเทศในภูมิภาค ทำให้ปัจจุบันเวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญ ที่บริษัทระดับโลกต่างทยอยเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตสินค้า ให้เป็น HUB แห่งใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มสดใส”
สำหรับผู้บริหาร 15 บริษัทที่ร่วมเดินทางไปด้วยครั้งนี้ เช่น บมจ.เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (AA), บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD), บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG), บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER), บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO), บมจ. เซ็ปเป้ จำกัด (SAPPE) เป็นต้น.