นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผย หลังการรับหนังสือจากชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อเร่งรัดให้พิจารณาปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นม ภายหลังคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) อนุมัติขึ้นราคารับซื้อน้ำนมดิบเกษตรกรกิโลกรัม (กก.) ละ 2.25 บาท จาก กก.ละ 17.50 บาท เป็น กก.ละ 19.75 บาท และราคาหน้าโรงงานขึ้นเป็น กก.ละ 20.50 บาท จาก กก. 19.00 บาท ว่า ได้แจ้งเกษตรกรว่ารอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำมติของมิลค์บอร์ดเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบก่อน จากนั้นกระทรวงพาณิชย์ จะพิจารณาการปรับราคาผลิตภัณฑ์นมให้สอดคล้องกับมติมิลค์บอร์ด โดยยึดหลักให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ โดยเกษตรกรยังขายน้ำนมดิบได้ในราคาดี ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมยังทำธุรกิจต่อไปได้ ไม่หยุดผลิตจนเกิด ปัญหาขาดแคลน และผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
“ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตจากน้ำนมดิบของเกษตรกรในประเทศจะปรับขึ้นราคาเท่าไร และมีผลิตภัณฑ์ใดบ้าง เพราะผู้ผลิตแต่ละรายมีต้นทุนต่างกันตามแต่ละผลิตภัณฑ์, บรรจุภัณฑ์, การบริหารจัดการ รวมถึงส่วน เหลื่อมกำไรต้องพิจารณาเป็นรายๆ ถ้าผู้ผลิตรายใดยังพอมีกำไรอยู่ ก็อยากให้ช่วยตรึงราคาขายไว้ก่อน”
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์นม เช่น นมสดพาสเจอไรซ์, นมสเตอ ริไลซ์, นมยูเอชที (ไม่รวมนมเปรี้ยว) และนมผงสำหรับเลี้ยง ทารก เป็นสินค้าควบคุม ภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 การจะปรับขึ้นราคาขายต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ก่อน ที่ผ่านมาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมหลายรายได้ทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาเข้ามาที่กรมแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานกรรมการ ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยจำกัด กล่าวว่า เกษตรกรโคนมทั่วประเทศ ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งพิจารณาปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมตามต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้เลี้ยงที่มีต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นกว่า 30% ใน 4-5 เดือนที่ผ่านมา โดยมี ทั้งต้นทุนอาหารวัวที่มีส่วนผสมจากปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง, ค่ายา, ค่าขนส่ง, ค่าไฟฟ้า ฯลฯ หากไม่ให้ขึ้นราคาก็เกรงว่า ผู้ผลิตนมอาจไม่ซื้อน้ำนมจากเกษตรกร และใช้นมผงที่ราคาถูกกว่าแทน ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนหนักขึ้น.