แนวโน้ม "ราคาน้ำมัน" ยังผันผวน หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กังวลจีนปิดเมือง

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

แนวโน้ม "ราคาน้ำมัน" ยังผันผวน หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กังวลจีนปิดเมือง

Date Time: 11 ก.ค. 2565 14:08 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • นักวิเคราะห์ด้านพลังงาน ประเมินแนวโน้ม "ราคาน้ำมัน" ช่วงครึ่งหลังปี 65 ยังคงผันผวนต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กังวลจีนปิดเมืองกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

Latest


นักวิเคราะห์ด้านพลังงาน ประเมินแนวโน้ม "ราคาน้ำมัน" ช่วงครึ่งหลังปี 65 ยังคงผันผวนต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กังวลจีนปิดเมืองกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

นักวิเคราะห์ด้านพลังงานรายหนึ่ง เปิดเผยกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ว่า เราจะเห็นได้ว่า ณ ปัจจุบัน ราคาน้ำมันทั่วโลก ปรับตัวลดลง เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้น โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา (อ้างอิงวันที่ 21 มิ.ย.65) เราจะพบว่าส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบดูไบลดลงถึง 58%

ขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันดิบดูไบลดลง 41% ส่งผลให้ค่าการกลั่นของสิงคโปร์ปรับลดลงประมาณ 19 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 63% จากค่ากลั่นสูงสุด เคยมูลค่าสูงสุดในช่วงปลายเดือน มิ.ย. 65

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ทั้งเบนซิน แก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 หน้าปั๊มปรับลดลงมาถึง 5.1 บาทต่อลิตร

น้ำมันดีเซล ราคาหน้าปั๊มยังคงตรึงอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร แต่เงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.56 บาทต่อลิตร จากเดิมที่เคยชดเชยถึง 11.84 บาทต่อลิตร

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 3 ก.ค. 65 ติดลบ 107,601 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ 69,718 ล้านบาท และกองทุน LPG ติดลบ 37,883 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ในช่วงครึ่งปีหลัง 65 นี้ หลายฝ่ายคาดว่ายังมีความเสี่ยงหลายด้าน และผันผวนสูงต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมากกว่า 10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปปรับลดลงมากกว่า 35 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะหลังจากจีนกลับมาปิดเมืองบางส่วนอีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาดที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง หรือมีความเสี่ยงที่โลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมถึงราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกได้

ทั้งนี้ สอดคล้องกับ การคาดการณ์ของซิตี้กรุ๊ป ที่ประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะลดลงแตะที่ระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปลายปี 65 นี้ และมีโอกาสดิ่งลงสู่ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปลายปี 66  ถ้าหากเศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

แนะวิธีหาค่าการกลั่นน้ำมัน

สำหรับเรื่องค่าการกลั่นน้ำมันที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ นักวิเคราะห์ด้านพลังงาน อธิบายว่า จริงแล้วๆ การนำราคาน้ำมัน และค่าการกลั่นแบบรายวันมาเปรียบเทียบกัน มันไม่ได้บ่งบอกหรือหมายถึงกำไรของโรงกลั่นน้ำมันได้

"ความจริงปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาน้ำมันและค่าการกลั่นในแต่ละวันก็เช่น 1. อัตราแลกเปลี่ยน ที่ปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย 2. อุปสงค์และอุปทานของตลาดน้ำมันดิบ 3. อุปสงค์และอุปทานของตลาดน้ำมันสำเร็จรูป"

ดังนั้น วิธีการเปรียบเทียบราคาน้ำมันและค่าการกลั่นสำหรับการวิเคราะห์กำไรของโรงกลั่นน้ำมันนั้น เราใช้ค่าเฉลี่ยในระยะยาว เช่น รายปี เนื่องจากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นมีความผันผวนสูง การนำค่าการกลั่นระยะสั้น เช่น รายวัน รายเดือน หรือรายไตรมาส มาเปรียบเทียบกัน จะสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นได้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์