ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากร้องเรียนว่า ราคาน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภคปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 16-17 พ.ค.65 ร้านสะดวกซื้อทั่วกรุงเทพฯ ได้ปรับราคาขายน้ำมันปาล์มขวดหลายยี่ห้อเป็นขวดละ 70 บาท สูงกว่าที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตรึงไว้ที่ขวดละ 66.50 บาท ซึ่งเมื่อสอบถามร้านค้า ระบุว่า ราคาที่ผู้ผลิตขยับขึ้น เพราะต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มแพงขึ้นต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องขึ้นราคา ส่งผลให้ร้า นค้าต้องขยับราคาขึ้นตาม และผลจากราคาน้ำมันปาล์มที่แพงขึ้น รวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบอาหารสด เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ เครื่องปรุงรส ก๊าซหุงต้ม 15 กิโลกรัม (กก.) ที่แพงขึ้นมาถังละ 30 บาทแล้ว ส่งผลให้ในเดือน พ.ค.65 ร้านอาหารปรุงสำเร็จต่างทยอยขึ้นราคาอีกจานละ 5-10 บาท
แต่จากการตรวจสอบราคาผลปาล์ม และน้ำมันปาล์มดิบ จากกรมการค้าภายใน พบว่าแนวโน้มผลปาล์มน้ำมันมีราคาอ่อนตัวลง จากต้นเดือน พ.ค.65 โดยราคาลดลงมาเหลือ กก.ละ 10.11 บาท จากเกือบ กก.ละ 13 บาท น้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ กก.ละ 57-58 บาท จากที่เคยสูงถึง กก. 60-64 บาท สวนทางราคาน้ำมันปาล์มขวดที่สูงขึ้น
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากราคาสินค้าและน้ำมันปาล์มแพงขึ้นนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการแก้ปัญหาทั้งเชิงรุกและเชิงลึก ซึ่งจะพิจารณาอนุญาตให้ปรับราคาเป็นรายตัว ไม่ใช่อนุญาตในภาพรวม และหากพบว่าสินค้าใดเข้าข่ายการค้ากำไรเกินควรจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด
“ราคาผลปาล์มขณะนี้เกษตรกรพอใจมากจาก 2-3 ปีที่แล้ว กก.ละ 2 บาทเป็น 11-12 บาทต่อ กก. โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายเพื่อกำกับราคาน้ำมันปาล์มบริโภคไม่ให้กลายเป็นค้ากำไรเกินควร เพราะถ้าผลปาล์ม กก.ละ 11-12 บาท น้ำมันปาล์มขวดจะอยู่ที่ 75-76 บาทต่อขวด แต่ กระทรวงดูให้อยู่ในราคา 65-68 บาท นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตลาดปาล์ม ได้ตั้งคณะอนุกรรมการจากตัวแทน 5 ฝ่าย คือ 1.ส่วนราชการ 2.เกษตรกร 3.โรงสกัด 4.โรงงานผลิตน้ำมันปาล์มขวดบริโภค และ 5.ผู้ส่งออก พิจารณาเรื่องปาล์มครบวงจร ผลปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มขวดให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมไม่ค้ากำไรเกินควร และดูปริมาณไม่ให้ขาดตลาด โดยจะเสนอรายงานเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติวันที่ 23 พ.ค.นี้ และสั่งการให้ตรวจสต๊อกทุกสัปดาห์.