นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างในประเทศปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า เห็นได้จากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน มี.ค.65 อยู่ที่ 119.7 สูงขึ้น 8.6% เทียบกับเดือน มี.ค.64 สูงสุดในรอบ 4 เดือนนับจากเดือน พ.ย.64 ที่สูงขึ้น 10.4% ส่วนเมื่อเทียบเดือน ก.พ.65 สูงขึ้น 2.2% และเฉลี่ย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) ปี 65 สูงขึ้น 7.2% เทียบช่วงเดียวกันปี 64
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสูงขึ้นมาจากการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบและพลังงาน เช่น น้ำมัน เหล็ก ถ่านหิน อะลูมิเนียม เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และเป็นสินค้านำเข้าที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ทั้งในด้านต้นทุนราคาสินค้าและอุปทาน
สำหรับหมวดสินค้าที่ราคาสูงขึ้นเดือน มี.ค.65 ได้แก่ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้น 19.8% เทียบเดือน มี.ค.64 ตามด้วยหมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้น 6.0% และหมวดซีเมนต์ สูงขึ้น 5.6% โดยทั้ง 3 หมวดมีสัดส่วน 52.89% ของมูลค่าการก่อสร้างของไทย สินค้าสำคัญ ที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ เหล็กเส้นกลมผิวข้ออ้อย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ คอนกรีตผสมเสร็จ เป็นต้น รวมถึงยางมะตอย สินค้าสำคัญสำหรับโครงการก่อสร้างภาครัฐ ที่สูงขึ้น 13.9% จากต้นทุนวัตถุดิบ คือ น้ำมันสูงขึ้น และยัง มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างภาครัฐที่เร่งดำเนินงานให้เสร็จตามเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีหมวดอื่นๆที่ราคาสูงขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ ที่สูงขึ้น 4.4%, หมวดกระเบื้อง สูงขึ้น 4.1%, หมวดสุขภัณฑ์ สูงขึ้น 0.1%, หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้น 4.6% และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ สูงขึ้น 7.0%
นายรณรงค์กล่าวถึงแนวโน้มในไตรมาส 2 ปี 65 ว่า ยังมีแนวโน้มขยายตัวจากราคาสินค้าหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์ที่ขยายตัว ตามปริมาณเหล็กโลกที่มีความตึงตัว เพราะจีนผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก ลดกำลังการผลิตลงอย่างต่อเนื่องตามนโยบายลดมลภาวะจากการผลิตเหล็กและนำไปสู่การลดกำลังการผลิตในระยะยาว รวมถึงการเก็บสต๊อกสินค้าไว้ใช้ในประเทศและความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนทำให้ปริมาณเหล็กโลกตึงตัวมากขึ้น.