นายกฯยิ้มร่าคนแห่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ชูนิคม “สมาร์ท พาร์ค”

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

นายกฯยิ้มร่าคนแห่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ชูนิคม “สมาร์ท พาร์ค”

Date Time: 1 เม.ย. 2565 06:49 น.

Summary

  • “ประยุทธ์” ยิ้มรับคนแห่จองรถยนต์ไฟฟ้าในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ สะท้อนศักยภาพประเทศไทยยังมีอยู่ พร้อมรุกเปิดนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท พาร์ค จ.ระยอง

Latest

“อุตสาหกรรมแบตเตอรี่”  จิ๊กซอว์ที่ต้องต่อให้เต็ม สานฝันไทย “ฮับผลิต EV” ภูมิภาค

“ประยุทธ์” ยิ้มรับคนแห่จองรถยนต์ไฟฟ้าในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ สะท้อนศักยภาพประเทศไทยยังมีอยู่ พร้อมรุกเปิดนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท พาร์ค จ.ระยอง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจนำไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงโดยเร็วที่สุด ดันให้เกิดอุตสาหกรรมแบบนี้ในภาคอื่นๆ ช่วยแก้ปัญหาคนทิ้งบ้านเกิด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ต้องยินดีกับการจัดงานมหกรรมยานยนต์ “บางกอก มอเตอร์โชว์ 2022” ซึ่งในช่วงแรกยังกลัวว่าจะมีปัญหาคนจะมาร่วมงานน้อย แต่ปรากฏว่าคนมากันตรึม ก็ได้ให้แก้ปัญหาเรื่องการจราจร การคัดกรองก่อนเข้างาน และยินดีที่มีสถิติการจองรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของประเทศไทยยังมีอยู่ ดังนั้น ก็ต้องเป็นไปด้วยกันทั้งรัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน หากทำเช่นนี้ได้ และเพิ่มผลผลิตได้ อีกหลายสิ่งอย่างก็จะตามมาอีกมาก ขอขอบคุณทุกคนที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม Smart Park จังหวัดระยอง ผ่านระบบ Video Conference จากทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท พาร์ค (Smart Park) เป็นโครงการภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมุ่งหวังร่วมกันที่จะให้เกิดการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคใหม่ นำไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคตโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ New S-Curve ที่มีนวัตกรรมและมีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต จะทำให้ก่อเกิดการขยายตัวในการลงทุน และมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องประเภทอื่นๆในพื้นที่อีอีซี หากโครงการดังกล่าวสำเร็จจะก่อให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมของประเทศ และยังมีส่วนพัฒนาพื้นที่ ท้องถิ่น ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้โครงการต่างๆของอีอีซีนั้นมีความก้าวหน้า เป็นที่น่าชมเชย แล้วเสร็จตามแผนเป็นที่น่าพอใจ

“ขอย้ำให้ทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ด้านอุตสาหกรรม และประชาชนคนไทยทุกด้าน เพื่อทำให้อีอีซีและประเทศไทยของเรานั้นเป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่สำหรับนักลงทุน แต่รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่กำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน”

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การดำเนินการโครงการต่างๆนั้นจะต้องคำนึงถึงความเชื่อมโยงทุกมิติ สร้างความสมดุลในทุกด้านอย่างครอบคลุม ทำอะไรก็ต้องตอบโจทย์เรื่องอื่นด้วย ซึ่งเป็นประเด็นและเป็นวาระสำคัญของชาติและของรัฐบาล คือทำอย่างหน่ึงก็ต้องได้อีกสองถึงสามอย่างตามมาทั้งหมด ให้ครอบคลุมทั้งเรื่องการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัล และนวัตกรรมขับเคลื่อนในการทำงาน และที่สำคัญที่สุดคือการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (บีซีจี) คำนึงถึงเรื่องพลังงานสะอาด การอยู่ร่วมกับชุมชน เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมนั้นเราต้องพัฒนาควบคู่กับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน การเรียนรู้ให้เกิดความร่วมมือ เพราะโครงการต่างๆจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบ หรือไม่ได้รับความพึงพอใจจากประชาชนในพื้นที่ ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ

“ผมคาดหวังว่าจะเกิดอุตสาหกรรมแบบนี้ในภาคอื่นๆอีกด้วย หากมีนิคมอุตสาหกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในทุกภาคของประเทศ ก็จะเกิดการจ้างงาน แก้ปัญหาความแออัดในเมืองใหญ่ คนจะไม่ทิ้งบ้านทิ้งถิ่น และเป็นการพัฒนาที่เชื่อมโยงกัน รัฐบาลมีหลายนโยบาย หลายเรื่องที่ต้องทำในเวลานี้ ที่จะทำให้เกิดแรงผลักดันพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ