มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ปี 64 ทั้งพักหนี้ ลดค่างวด ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือประชาชน

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ปี 64 ทั้งพักหนี้ ลดค่างวด ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือประชาชน

Date Time: 12 ก.ย. 2564 12:57 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • รวมมาตรการ ธปท. ช่วยลูกหนี้รายย่อย หนี้บัตรเครดิต หนี้รถ หนี้บ้าน และคนทำ SMEs คนเป็นหนี้จะทำอย่างไรมีคำตอบให้ที่นี่

Latest


รวมมาตรการ ธปท. ช่วยลูกหนี้รายย่อย หนี้บัตรเครดิต หนี้รถ หนี้บ้าน และคนทำ SMEs คนเป็นหนี้จะทำอย่างไรมีคำตอบให้ที่นี่

ไม่มีใครอยากเป็น "หนี้" แต่เมื่อเป็นแล้วทุกคนคงหวังผลในระยะยาว ได้บ้าน ได้รถเป็นของตัวเอง ช่วงก่อนโควิดยังพอมีเงินมาจ่ายหนี้บ้าง แต่โควิดมา ลูกหนี้บางคน รายได้ไม่พอจ่ายหนี้เลยก็มี ด้วยเหตุนี้เอง ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยแล้ว จะเห็นได้จากหลายธนาคารเริ่มบอกว่าจะช่วยเหลือลูกหนี้อย่างไร มาตรการเหล่านี้ "นักล่าฝัน" ขอสรุปชัดๆ ดังนี้

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ มีอยู่ 4 ประเภท คือ

1. บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

2. สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์

3. สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์

4. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

- หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล จะเปลี่ยนเป็นหนี้ระยะยาว ให้ลดค่างวดลง แต่หากเป็นหนี้ระยะยาวเกิน 48 งวด ให้ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าเพดานตั้งแต่งวดแรก บัตรเครดิตเดิมร้อยละ 12 และสินเชื่อส่วนบุคคล ร้อยละ 22 ต่อปี

- สินเชื่อจำนำทะเบียนรถและรถมอเตอร์ไซค์ มีการลดค่างวด และรวมหนี้ไปยังสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ ส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คนที่ได้รับผลกระทบรุนแรง จะมีอีก 2 ทางให้เลือก คือ พักค่างวด หรือคืนรถสำหรับคนที่ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้จริงๆ รถคันนั้นต้องขายประมูลราคา ถ้าราคาต่ำกว่าหนี้ตามสัญญา สถาบันการเงินช่วยลูกหนี้ให้ตรงกับฐานะของลูกหนี้ได้

- การเช่าซื้อรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ จะได้ลดค่างวด หรือขยายเวลาชำระหนี้ออกไป และเมื่อคำนวณอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา หรือ EIR ต้องไม่สูงกว่าอัตราเดิม แต่ถ้าลูกหนี้จ่ายค่าซื้อทั้งหมดเพื่อปิดบัญชี จะได้ลดดอกเบี้ยที่ไม่ถึงกำหนดชำระไม่น้อยกว่า 50% ตามข้อกำหนดของ สคบ. ส่วนคนที่ต้องคืนรถจริงๆ ทางสถาบันการเงินต้องนำรถไปประมูล หากได้ราคาต่ำกว่าจำนวนหนี้ ธนาคารก็จะช่วยลดภาระหนี้ให้ได้

- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน มีบรรเทาภาระหนี้ 4 ทาง ได้แก่

1. ลดค่างวด

2. พักเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน

3. พักเงินต้นและพิจารณาลดดอกเบี้ย

4. พักชำระค่างวด

นอกจากนี้ยังสามารถทยอยชำระเป็นขั้นบันได หรือ step up ตามความสามารถของลูกหนี้ หลังลดค่างวดหรือพักชำระหนี้ และสุดท้ายรวมหนี้ โดยนำสินเชื่อนี้รวมกับสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ ได้

โดยลูกหนี้ทั้ง 4 ประเภท สามารถติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 64

นอกจากนี้ยังมีโครงการ "คลินิกแก้หนี้" ที่แบงก์ชาติกับ บยส. ได้เปิดช่องทางให้กับลูกหนี้ ด้วยการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว โดยสามารถดูเงื่อนไขการเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ที่นี่ และยังมีผ่อนปรนหลักเกณฑ์การสมัครเข้าโครงการ 2 ประการ คือ 1.เกณฑ์ด้านอายุ จากเดิมไม่เกิน 65 ปี เป็นไม่เกิน 70 ปี (เมื่อรวมระยะเวลาการปรับโครงสร้างหนี้) และ 2.ปรับอัตราดอกเบี้ยจากเดิมร้อยละ 4-7 เป็นอัตราเดียวที่ร้อยละ 5 เป็นค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยในโครงการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน ธปท. ร่วมมือกับกระทรวงการคลัง สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และ บสย. เปิดตัวโครงการ "หมอหนี้เพื่อประชาชน" เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขหนี้แก่ผู้ประกอบการและประชาชน ทั้งการจัดทำแผนธุรกิจ ข้อมูลทรัพย์สินและหนี้สิน ข้อมูลรายรับรายจ่าย เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ รวมทั้งแนวทางการพูดคุยกับเจ้าหนี้ ตลอดจนข้อมูลมาตรการช่วยเหลือของสถาบันการเงินต่างๆ

โดยโครงการนี้ยังเอื้อประโยชน์ให้กับลูกหนี้ที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากทีมหมอหนี้ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs เช่น บสย. FA Center สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสมาคมธนาคารไทยได้ฟรี โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษากับหมอหนี้ ผ่านเว็บไซต์ โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน หรือสอบถามได้ทั้งที่ ธปท. ได้เลย

อย่างไรก็ตาม นอกจากโครงการหมอหนี้เพื่อประชาชนแล้ว ธปท. ก็ยังมีมาตรการลดภาระหนี้เพิ่มเติม สำหรับหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และผู้ประอบการ SMEs ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. 64 เป็นต้นไป 

มาเริ่มกันที่ หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มีอยู่ 3 ข้อ

1. ธปท.จะขยายเพดานวงเงินเป็น 2 เท่าของเงินเดือน สำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล หากมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล คนกู้สามารถขอสินเชื่อได้โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ให้บริการ

2. คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ เหลือ 5% จนถึงสิ้นปี 65

3. ขยายเพดานวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล จากรายละไม่เกิน 20,000 บาท เป็น 40,000 บาท และขยายระยะเวลาชำระคืน จากไม่เกิน 6 เดือน เป็น 12 เดือน

ส่วนของสินเชื่อ SMEs มีอยู่ 2 ข้อ คือ 

1. ขยายวงเงินสินเชื่อ ที่มีวงเงินสินเชื่อต่ำ หรือไม่มีวงเงินกับสถาบันการเงิน เพราะใช้เงินทุนส่วนตัวประกอบธุรกิจ

2. ค้ำประกันเพิ่มและปรับลดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันให้กับลูกหนี้กลุ่มเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นธุรกิจที่มีผลกระทบมาก อย่างภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ เพื่อให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ได้มากขึ้น 

โดยสถาบันการเงินสามารถยื่นคำขอสินเชื่อฟื้นฟูมายัง ธปท. ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 64 

จะเห็นได้ว่า ธปท. ก็หามาตรการมาช่วยลูกหนี้ทุกประเภท เพื่อให้ต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดแบบนี้ ให้สามารถพยุงธุรกิจ และบรรเทาความเดือดร้อนของคนมีหนี้ สุดท้ายขอเป็นกำลังให้ลูกหนี้ทุกคนฟันฝ่าอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน.

ผู้เขียน : นักล่าฝัน nathaorn.s@thairathonline.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ