“โควิด-19” ระบาดรอบนี้ นับว่าหนักหนาสาหัส ทุกสาขาอาชีพได้รับผลกระทบถ้วนหน้า เพียงแต่อาจจะแตกต่างกันไปในส่วนที่ได้รับผลกระทบมากหรือน้อย
ที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบน้อยมาก ก็คือ “สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” ที่ยังสามารถจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ ได้ครบ 100 ล้านฉบับทุกงวด แม้จะมีการล็อกดาวน์ถึง 13 จังหวัดก็ตาม เนื่องจากมีพ่อค้าแม้ค้า รายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ รับไปจำหน่ายหมดแล้ว
โดยปีงบประมาณ 2563 สำนักงานสลากฯมีรายได้ เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 140,000 ล้านบาท กำไร 5,700 กว่าล้านบาท นำเงินส่งเป็นรายได้แผ่นดินไม่น้อยกว่า 46,000 ล้านบาท
ขณะที่การออกรางวัล ยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสำนักงานสลากฯได้จัดทำตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดโดยเคร่งครัดอยู่แล้ว ทั้งจำกัดจำนวนผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ออกรางวัลพร้อมกับทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ออกรางวัลด้วยน้ำยาทำความสะอาดและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ จัดสถานที่เว้นระยะห่างทางสังคม เจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงกรรมการออกรางวัลจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ตั้งจุดคัดกรองอุณหภูมิของผู้เข้าร่วมทั้งหมด
“การเลื่อนออกรางวัล อาจมีผลกระทบต่อผู้ค้าสลาก ขายไม่ได้ เหมือนครั้งเมื่อเดือน เม.ย.2563 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานสลากฯได้เลื่อนการออกรางวัลออกไป 2 งวด อย่างไรก็ตามสำนักงานสลากฯจะเกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง” นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรม- การสลากกินแบ่งรัฐบาลกล่าว
เช่นเดียวกับ นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวยืนยันหนักแน่นว่า บอร์ดสลากฯ ไม่มีการนัดประชุมหารือเพื่อเลื่อนการออกรางวัลแต่อย่างใด ดังนั้นวันที่ 1 ส.ค.2564 ยังคงออกรางวัลสลากตามปกติ ซึ่งสลากได้จำหน่ายไปหมดแล้ว และการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 10,000-20,000 ล้านบาท ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างกิจกรรมต่อเนื่อง
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ ต่างโอดครวญกับวิกฤติโควิดรอบใหม่นี้ ขายลอตเตอรี่ลำบาก ขายไม่หมด มาตั้งแต่งวดเดือน เม.ย.2564 และดูทีท่าว่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนเหตุการณ์อื่นๆ น้ำท่วม ฝนตก ยังรู้ว่าน้ำจะลด ฝนจะหยุดเมื่อใด แต่ไวรัสโควิด-19 ไม่รู้จะหยุดแพร่เชื้อเมื่อใด
จากการลงพื้นที่สำรวจการขายลอตเตอรี่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล แม่ค้าพ่อค้าลอตเตอรี่ เล่าว่า เข้าใจสถานการณ์โควิด คนขายก็กลัว คนซื้อก็กลัว เมื่องวดที่แล้ว (16 ก.ค.) ขายไม่หมด เหลือราว 100-200 ใบ ก็ต้องแบกรับต้นทุนไว้ เช่น รับมาใบละ 80-90 บาท อาจจะมีบ้างที่โชคดี หากลอตเตอรี่ที่เหลือมีถูกรางวัลมาช่วยหักลบกับต้นทุนได้บ้าง
คนขายลอตเตอรี่ยืนยันไม่เห็นด้วยถ้าจะเลื่อนออกรางวัล เพราะจะยิ่งทำให้ขายลอตเตอรี่ไม่ได้เลย
แม่ค้าขายลอตเตอรี่บอกว่าเรื่องความเชื่อ ศรัทธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไสยศาสตร์ และ “สายมู” มีผลกับการขายลอตเตอรี่มาก เมื่อช่วงนี้สถานที่สำคัญๆที่คนนิยมมากราบไหว้บูชาได้ปิดบริการ ทำให้การขายลอตเตอรี่ยิ่งพลอยลำบากมากขึ้น
ทำให้รูปแบบการขายลอตเตอรี่ของแต่ละคนได้มีการปรับตัวแตกต่างกันไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละคน โดยบางคนหันไปขายลอตเตอรี่ออนไลน์ ขณะที่คนซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ ก็ต้องมีความระมัดระวัง ควรซื้อกับคนที่ไว้ใจได้ เพราะซื้อออนไลน์ ถ้าไม่ได้ใบลอตเตอรี่มาครอบครอง ก็นับว่าเสี่ยง โดยเฉพาะกรณีถูกรางวัลที่ 1 อาจไม่ได้เงินรางวัล
โดยเรื่องนี้ สำนักงานสลากฯได้ออกมาเตือนตลอดให้ระมัดระวัง ไม่ได้ห้ามขาย เพราะเป็นช่องทางหนึ่งการขาย แต่การขายนั้น ต้องไม่เกินราคาที่กำหนดคือใบละ 80 บาท
ในยุคโควิด-19 ระบาดหนักอย่างนี้ สำหรับคนไม่เล่นหวย ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ยังไงก็ไม่ซื้อ แต่สำหรับผู้ที่ซื้อประจำ มีเงินน้อย เงินมาก ก็ซื้อ เพื่อเสี่ยงโชค ก่อนหน้านี้บางคนเคยซื้อหลายใบ แต่ตอนนี้ซื้อเพียง 1-2 ใบ เพราะต้องเก็บเงินที่มีอยู่ไว้ใช้จ่ายสำหรับสิ่งที่จำเป็น
เมื่อได้สอบถามผู้ซื้อลอตเตอรี่หลายรายต่างให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่าแม้ไม่เคยถูกรางวัล หรือถูกบ้าง แต่ก็ยังซื้อ เพราะมีความหวังว่าสักวันจะถูกรางวัลบ้าง ถึงแม้จะมีการคำนวณเชิงสถิติ โอกาสถูกสักรางวัลนับว่ายากมาก! โดยมีโอกาสเพียง 1.4% ที่จะถูกรางวัล ขณะที่โอกาสไม่ถูกรางวัลเลยมีถึง 98.6%
ยิ่งโอกาสที่เราจะถูกรางวัลที่ 1 เหลือเพียงแค่ 0.0001% เท่านั้น
แต่คนที่ซื้อลอตเตอรี่ ก็ยังมีความหวัง เมื่อชีวิตมีความหวัง ก็ทำให้มีแรงบันดาลใจ ดิ้นรนสู้ชีวิตต่อ และก็ซื้อลอตเตอรี่ต่อไป ดังนั้นปล่อยให้ประชาชนได้มีความหวังบ้างเถอะ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
ไม่ต้องเลื่อนการออกรางวัลสลาก ปล่อยให้เป็นไปตามกฎกติกาและเป็นไปตามธรรมชาติ คนมีเงินน้อยก็ซื้อน้อย ส่วนคนขายถึงจะขายได้น้อยลง ก็ยังดีกว่าขายไม่ได้เลยและไม่ได้ขายเลย!!!
ดวงพร อุดมทิพย์