สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ร่วมกับ บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด พบ โควิดระบาดรอบ 3 ทำคนไทยกังวลกับเศรษฐกิจ ส่งผลให้การใช้จ่ายโดยรวมลดลง แต่ยังกันเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในหุ้น-บิตคอยน์ เพิ่มต่อเนื่อง
ชุติมา วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่ 3 สร้างความวิตกกังวลให้กับคนในสังคมไทยอย่างมาก โดยผลสำรวจครั้งล่าสุดนี้ ทางสถาบันวิจัยฯ ได้ทำการสำรวจทางออนไลน์ การคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นที่แนวโน้มการบริโภคของคนไทยในอนาคต ผู้ร่วมตอบแบบสอบถามประกอบไปด้วยเพศชายและเพศหญิง จำนวน 1,200 คน อายุระหว่าง 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ พบข้อบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยที่สำคัญ 2 ข้อ ได้แก่
1. สถานการณ์ทำให้ต้องรัดกุม แต่ชีวิตยังต้องเดินหน้าต่อไป การกลับมาของโควิด-19 ระลอกสาม ทำให้คนไทยลดการใช้จ่าย รัดกุมมากขึ้น เมื่อเทียบกับผลการสำรวจในช่วงเดือนเมษายน 2564 ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มการใช้จ่ายโดยรวมลดลง แต่ความต้องการพื้นฐานในอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้จำเป็นก็เพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายค่าน้ำมันเพื่อออกไปทำงานหารายได้ และมีบางส่วนที่ลดการทานอาหารนอกบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด และเน้นประหยัดค่าใช้จ่าย
โดยแนวโน้มความต้องการในการใช้จ่ายลดลง 2 คะแนน มาอยู่ที่ 54 คะแนน จาก 56 คะแนนเต็ม 100 ในผลสำรวจครั้งก่อน ในขณะที่คะแนนความสุขในปัจจุบันยังคงที่อยู่ที่ 65 คะแนน เท่ากับผลสำรวจครั้งก่อน แต่แนวโน้มความสุขใน 3 เดือนข้างหน้านั้นคาดว่าลดลง เหตุจากความกังวลว่าสถานการณ์อาจยังไม่ดีขึ้น
2. ชะลอของชิ้นใหญ่ แต่ยอมจ่ายเพื่อประโยชน์ รวมถึงความสุขเล็กๆ น้อยๆ สินค้าที่มีมูลค่าสูง อย่างเครื่องใช้ภายในบ้าน และโทรศัพท์มือถือ ถึงแม้มีแนวโน้มการใช้จ่ายลดลง แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการเพื่อนำไปช่วยในการประกอบอาชีพ เช่น ไว้ถ่ายรูปขายของ นอกจากนั้นการได้ช็อปปิ้งเทศกาลลดราคากลางปี ทำให้ได้ซื้อของราคาถูกและเป็นการผ่อนคลายด้วย รวมถึงการซื้อสินค้าเสริมความงามที่มีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพื่อพยุงความรู้สึกให้รอดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปได้
นัฐกาญจน์ วัฒนมงคลศิลป์ ผู้อำนวยการสายงานวางแผนกลยุทธ์ และ ณกร โชติสังกาศ รองผู้อำนวยการสายงานวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัด อธิบายต่ออีกว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสาม ทำให้กลับมาระวังตัวมากขึ้น มุ่งใช้จ่ายในสิ่งที่มีความจำเป็นเท่านั้น โดยสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคซื้อมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหาร ร้อยละ 28 ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ร้อยละ 16 โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน ร้อยละ 8 เครื่องใช้ภายในบ้าน ร้อยละ 6 และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ร้อยละ 5
เมื่อจำแนกตามภาค พบแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงภาคกลาง และภาคใต้ ส่วนภาคที่มีความต้องการในการใช้จ่ายลดลง ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโดยเฉพาะภาคตะวันออกที่ลดลงต่ำที่สุดถึง 8 คะแนน มาอยู่ที่ 51 คะแนน จากเดิมที่มีแนวโน้มการใช้จ่ายสูงสุดในผลสำรวจครั้งก่อนที่ 59 คะแนน สาเหตุจากยังมีกักตุนสินค้าคงเหลือเพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวเมื่อเดือนเมษายน ผนวกกับสถานการณ์โควิดระลอกสามที่ต้องประหยัดและจำกัดการเดินทาง
โดยการแบ่งตามช่วงอายุ พบว่า แนวโน้มการชะลอการใช้จ่ายอยู่ที่กลุ่มอายุ 30-39 ปี เป็นกลุ่มที่มีภาระด้านครอบครัว และยังไม่มีความมั่นคงด้านการเงินเท่ากลุ่ม 40 ปีขึ้นไป ดังนั้นกลุ่มนี้จึงส่งสัญญาณลบมากกว่ากลุ่มอื่น โดยเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้า การท่องเที่ยวในประเทศ และทานข้าวนอกบ้าน
นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่า ประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจเพิ่มสูงขึ้นคือ โควิดระลอกสาม สูงถึง 83% เพิ่มขึ้น 59% จากผลสำรวจครั้งก่อน ตามด้วยข่าวด้านการเมืองในประเทศ 4% ที่มีนัยเกี่ยวข้องกัน แต่อีกด้านหนึ่งคือ ผลสำรวจพบประเด็น การมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการอยู่รอดในอนาคต อาทิ ‘วัคซีน’ หรือการมองหาทางเลือกใหม่ในการหารายได้ อย่างกระแส ‘การลงทุนในหุ้น’ หรือบิตคอยน์ (Bitcoin).