อโกด้าเผยผลสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวปี 2025 ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยที่จะเข้ามามีบทบาทต่อแวดวงการเดินทางท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียในปีหน้า โดยผลสำรวจจากอโกด้าเผยให้เห็นว่า การเดินทางเพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยวกับครอบครัว และการท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญมากที่สุด อีกทั้งยังมีเทรนด์ของ Digital Nomad ที่นักเดินทางชาวไทยถึง 6% วางแผนที่จะทำงานแบบไม่ต้องเข้าบริษัทเพื่อให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ผลสำรวจของอโกด้ายังแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก และมองหาความสงบจากชีวิตประจำวันที่วุ่นวาย โดยผลสำรวจพบว่าความสนใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในการท่องเที่ยวสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ แต่อย่างไรก็ตาม สถานที่เที่ยวสุดคลาสสิกอย่างสวนสนุกยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 8 คนวางแผนจะไปเที่ยวสวนสนุกในปีหน้า
7 เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2025
โดยจากผลสำรวจของอโกด้าเผยให้เห็น 7 เทรนด์การท่องเที่ยวที่น่าจับตาในปี 2025 ดังนี้
เลือกเที่ยวกับครอบครัวมากขึ้น
- จากผลสำรวจพบว่า นักเดินทางหลายคนชอบใช้เวลากับคนที่รัก โดย 34% ของนักเดินทางวางแผนที่จะท่องเที่ยวกับคนในครอบครัวมากขึ้น โดยชาวอินโดนีเซียถือเป็นกลุ่มที่มีความสนใจในการเดินทางกับครอบครัวมากที่สุด ด้วยจำนวนมากถึง 58% คาดว่าจะเดินทางกับครอบครัวใหญ่หลายรุ่นอายุ ตามมาด้วยการเดินทางกับคู่รัก 23% และเดินทางคนเดียว 19%
เที่ยวแบบเน้นการพักผ่อน หนีความวุ่นวาย
- การหลบหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันคือเหตุผลหลักที่ทำให้คนอยากเดินทาง ผลสำรวจพบว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือก “การพักผ่อน” เป็นแรงจูงใจที่สำคัญที่สุดในการเดินทาง โดยชาวสิงคโปร์มากถึง 87% ระบุว่าอยากเดินทางเพื่อพักผ่อน ส่วนในระดับภูมิภาค 39% เดินทางเพื่อไปหาครอบครัวและเพื่อน ขณะที่ 34% เลือกการสำรวจวัฒนธรรมเป็นเหตุผลหลักในการเดินทาง
- เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการวางแผนการเดินทางมากขึ้น นักเดินทางถึง 80% วางแผนที่จะใช้แอปพลิเคชันระหว่างการเดินทาง ขณะที่ 12% สนใจทัวร์เสมือนจริง โดยชาวอินเดียเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีมากที่สุด ซึ่ง 9 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าใช้แอปพลิเคชันการเดินทางช่วยในการจองทริป
- การจัดการค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยนักเดินทางชาวไทยมากถึง 78% ตั้งงบไว้ไม่เกิน 8,500 บาทต่อคืนสำหรับการจองที่พัก และ 71% คิดว่าจะตั้งงบในการเดินทางเท่ากันกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะ 84% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดระบุว่าจะเดินทางเท่าเดิมหรือมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2024 โดย 52% วางแผนจะเดินทางไปต่างประเทศ ในขณะที่ 82% ของนักเดินทางจากฮ่องกงคาดว่าจะเดินทางไปต่างประเทศมากที่สุด และ 27% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนจะเดินทางทั้งในและต่างประเทศ
Digital Nomad จะยังคงได้รับความนิยม
- ถึงแม้ว่า 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามจะยังคงเดินทางเพื่อไปทำงานหรือติดต่อธุรกิจในรูปแบบเดิม แต่ผลสำรวจยังสะท้อนถึงการเติบโตของกลุ่ม “Digital Nomad” หรือคนที่ทำงานโดยไม่ต้องเข้าบริษัท โดย 1 ใน 25 ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะทำงานแบบไม่เข้าบริษัทในปี 2025 โดยจะเน้นการผสมผสานระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเข้าด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่หลายบริษัทเริ่มเปิดรับระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น โดย Digital Nomad ในภูมิภาคนี้ ส่วนใหญ่มาจากประเทศฟิลิปปินส์ และ 1 ใน 14 ของนักเดินทางจากฟิลิปปินส์คาดว่าจะทำงานไปด้วยระหว่างการเดินทาง ตามมาด้วยนักเดินทางจากประเทศไทยที่ 6% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะทำงานแบบไม่ต้องเข้าบริษัทในปีหน้า
- นักเดินทาง 84% วางแผนที่จะเดินทางไปจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ในปี 2025 ซึ่งแรงบันดาลใจในการออกไปท่องเที่ยวสถานที่ใหม่มาได้จากหลายทาง โดย 71% มาจากความสนใจส่วนตัวและงานอดิเรก ขณะที่ 56% มาจากโปรโมชั่นราคาประหยัด และ 33% ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนและครอบครัว นอกจากนี้ 20% ยังได้แรงบันดาลใจจากโซเชียลมีเดีย โดย 29% ของทั้งชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียได้รับแรงบันดาลใจมากที่สุดจาก Instagram และสื่อโซเชียลมีเดียที่คล้ายกัน
สวนสนุกจะยังคงเป็นที่นิยม
- สวนสนุกชื่อดังในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น Disneyland ที่โตเกียว, เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง, Lotte World ที่กรุงโซล, Universal Studios ที่โอซาก้าและสิงคโปร์, Ferrari World ที่อาบูดาบี เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยนักเดินทาง 13% คาดว่าจะเดินทางไปเยือนสวนสนุกในปี 2025 อีกด้วย