ไทยโลเคชั่นชั้นดี ถ่ายหนังแล้ว 34 เรื่อง รับทรัพย์เฉียด 300 ล้านบาท รัฐหนุน Cash Rebate 20-30%

Business & Marketing

Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ไทยโลเคชั่นชั้นดี ถ่ายหนังแล้ว 34 เรื่อง รับทรัพย์เฉียด 300 ล้านบาท รัฐหนุน Cash Rebate 20-30%

Date Time: 18 ก.ค. 2566 14:00 น.

Video

โมเดลธุรกิจ Onlyfans ทำไมถึงมีแต่ได้กับได้ ? บริษัทมั่งคั่ง คนทำก็รวย | Digital Frontiers

Summary

  • “ประเทศไทย” ยังบูม จากการที่ต่างชาตินิยมใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ โฆษณา กันอย่างต่อเนื่อง โดยถ่ายหนังแล้ว 34 เรื่อง รับทรัพย์เฉียด 300 ล้านบาท ซึ่งภาครัฐได้มีการสนับสนุนเป็นสิทธิประโยชน์ในรูปแบบการคืนเงิน Cash Rebate 20-30% ด้วยเช่นกัน

Latest


จะเห็นได้ว่า “ประเทศไทย” ยังบูม จากการที่ต่างชาตินิยมใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ โฆษณา ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ The White Lotus, The Childe เทพบุตรล่านรก ที่แปลง “กรุงเทพ” เป็น “มะนิลา”, The Sympathizer ที่แปลงหาดใหญ่เป็นไซง่อน หรือแม้กระทั่งซีรีส์เกาหลีที่กำลังฮิตติดลมบนอยู่ในขณะนี้อย่างเรื่อง King The Land ก็เลือกไทยเป็นหมุดหมายในฉากสำคัญ พร้อมกับโปรโมตของกิน ร้านดัง และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต รวมทั้งยังสอดแทรกวัฒนธรรมการใช้ชีวิต อย่างการสั่งอาหาร ภาษาไทย และทีเด็ดคือการเก็บรายละเอียดแผงขายลอตเตอรี่ข้างทาง

จากรายงานของกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า ในปี 2565 มีการถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศในประเทศไทยถึง 348 เรื่อง โดยเดือนกันยายน และพฤศจิกายน 2565 มีการถ่ายทำสูงสุดที่ 42 เรื่อง ขณะที่ล่าสุด เดือนมกราคม 2566 มีการถ่ายทำไปแล้วถึง 34 เรื่อง สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 298.11 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2566)

ดึงกองถ่ายต่างชาติเข้าไทย ปั๊มรายได้ขาย Soft Power

นอกจากนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ภาครัฐยังได้ให้การสนับสนุนเป็นสิทธิประโยชน์ในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) ตามมติ ครม. (7 ก.พ. 2566) ร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 2 ปี สิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ร้อยละ 20 เมื่อมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกินร้อยละ 10 


รวมทั้งยังมีการปรับเพิ่มการคืนเงินจากเดิม 75 ล้านบาท/เรื่อง เป็น 150 ล้านบาท/เรื่อง จะทำให้เพดานเงินลงทุนสร้างภาพยนต์ต่อเรื่องเพิ่มเป็น 750 ล้านบาท จากเดิม 375 ล้านบาท เพื่อเป็นการรับกับแนวโน้มที่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาในไทยเป็นผู้สร้างรายใหญ่ เงินทุนสูง โดยเฉพาะภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ 


หากดูสถานที่ยอดฮิตในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดสถานที่ถ่ายทำยอดฮิตของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สมุทรปราการ เชียงใหม่ และพังงา โดยรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย รวมถึงในการจ่ายเงินคืนให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติในช่วง 7 ปี (พ.ศ. 2560-2566) มีภาพยนตร์จำนวนกว่า 45 เรื่องที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย นำรายได้เข้าประเทศเกือบ 9 พันล้านบาท หมุนเวียนเศรษฐกิจในอัตราทวีคูณถึงกว่า 17,000 ล้านบาท

จีน! มาแรงไม่แพ้เกาหลี เตรียมลงทุนถ่ายหนังในไทย คาดรายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท

ด้านกรมการท่องเที่ยว โดยกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ ได้มีการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การลงทุนของคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มากกว่า 2,000 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ จำนวน 3 งาน ได้แก่ Hong Kong International Film & TV Market (FILMART) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน Beijing International Film Festival (BJIFF) กรุงปักกิ่ง และ Shanghai International Film Festival (SIFF) นครเซี่ยงไฮ้ ที่ผ่านมา


ขณะที่ นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า "ตลาดภาพยนตร์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญ และมีศักยภาพ ประกอบกับชาวจีนมีความชื่นชอบในเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และสื่อบันเทิงของประเทศไทยเป็นอย่างมาก จึงเป็นโอกาสอันดีที่กรมการท่องเที่ยวได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ในการออกคูหานิทรรศการในงานเทศกาลภาพยนตร์ทั้ง 3 งาน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากคณะถ่ายทำชาวจีน เข้าสอบถามข้อมูลการขออนุญาตถ่ายทำ มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำ และข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยภายในคูหาประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางเข้าร่วมงานที่กรุงปักกิ่ง ได้เข้าพบกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อหารือแนวทางการขอรับการตรวจลงตราในหนังสือเดินทางของคณะถ่ายทำภาพยนตร์ชาวจีน ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน แต่ยังคงให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศเป็นอันดับแรก"


ทั้งนี้ จากสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ของคณะถ่ายทำชาวจีนและฮ่องกง 6 เดือนแรกของปี 2566 พบว่า มีเรื่องยื่นขออนุญาต จำนวนทั้งสิ้น 28 เรื่อง สร้างรายได้กว่า 380 ล้านบาท กรมการท่องเที่ยวหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยของคณะถ่ายทำชาวจีน จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้พลิกฟื้นเศรษฐกิจ เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการเดินทางตามรอยภาพยนตร์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนต่อไป

กระหึ่มเมืองคานส์ 'โลเคชั่นไทย' สุดฮิต คาดเงินลงทุนสะพัด 3,000 ล้านบาท

และจากการที่ กรมการท่องเที่ยว บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงพาณิชย์ ออกบูทนิทรรศการประเทศไทย Thailand Pavilion ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (2023 Cannes Film Festival) ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 


ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์ระดับต้นๆ ของโลกที่มีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สร้าง ผู้ผลิตภาพยนตร์ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

ก็ได้มีการนำเสนอโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ ความสามารถของทีมงานไทย โรงแรมที่พัก การคมนาคม อุปกรณ์การถ่ายทำ การพักผ่อนท่องเที่ยว และมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ประเทศไทยรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) แก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างๆ ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้สร้างหนัง


โดยจากการออกบูธมีผู้เข้าเยี่ยมชมบูทประเทศไทยแล้วกว่า 500 ราย คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาลงทุนถ่ายทำในประเทศไทย สร้างรายได้เข้าประเทศต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยในภาพรวม ทั้งการจ้างงานและกระจายรายได้สู่บุคลากรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ กว่า 3,000 ล้านบาท 


จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพความสวยงามและเสน่ห์ของประเทศไทยในแผ่นฟิล์ม ที่ได้ปรากฏสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก จะส่งผลให้เกิดกระแส Soft Power อย่างเห็นได้ชัด และสร้างโมเมนต์ท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ ซีรีส์กันอย่างคับคั่ง ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ