กรมการค้าภายใน ยันลอยตัวแอลพีจี ไม่กระทบราคาอาหารปรุงสำเร็จ เหตุราคากระทบแค่ 12 สตางค์ต่อถัง 15 กิโลกรัม แนะผู้บริโภคใช้ร้านอาหารหนูณิชย์ที่มีกว่า 1.2 หมื่นร้านทั่วประเทศ เชื่อเป็นทางเลือกการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จราคาถูก..
วันที่ 7 ก.ค. 60 นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการเปิดเสรีแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ทั้งระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.60 เป็นต้นไป ว่า กรมฯ ได้ติดตามผลกระทบจากการลอยตัวแก๊สหุงต้มอย่างใกล้ชิด โดยประเมินว่าตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ที่จะเริ่มลอยตัวราคา คาดว่า ราคาแก๊สหุงต้มยังคงอยู่ในระดับเดียวกับขณะนี้ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จ เพราะต้นทุนจะขยับขึ้นเพียง 12 สตางค์ต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการและร้านค้าจะใช้เป็นเหตุผลปรับขึ้นราคาอาหารปรุงสำเร็จ
ทั้งนี้ กรมฯ เห็นว่า การลอยตัวราคาแก๊สตามตลาดโลก อาจจะทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ด้วยซ้ำ หากราคาแก๊สตลาดโลกปรับตัวลดลง โดยประเมินว่า ราคาแอลพีจีตลาดโลกจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 2-3 ปี ทำให้แรงกดดันต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จไม่น่าจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรมฯ มีทางเลือกในการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จราคาประหยัดให้กับประชาชน และผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว โดยมีร้านอาหารหนูณิชย์ ที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาประหยัดเมนูละ 35 บาท ล่าสุด มีจำนวนร้านทั่วประเทศกว่า 12,000 ร้าน และกำลังผลักดันให้มีร้านหนูณิชย์ติดดาว ซึ่งเป็นร้านที่มีคุณภาพมาตรฐานให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค กรมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาจำหน่ายแก๊สหุงต้ม และราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาหารปรุงสำเร็จ และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ทั้งในตลาดสด ห้างสรรพสินค้า โดยหากประชาชนพบเห็นการเอาเปรียบ หรือจำหน่ายสินค้าในราคาไม่เป็นธรรมสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมฯ โทร. 1569 ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หากพบเอาเปรียบผู้บริโภคจริง จะดำเนินการตามกฎหมาย.