การเปิดตัวเมนู “ไทยริกาโน” จากกาแฟพันธุ์ไทย โดยชูคอนเซ็ปต์ “กลมกล่อม หอม ละมุน ใจฟู” ผ่านภาพลักษณ์คู่หู "คัลแลน-พี่จอง" ซึ่งนับเป็นแบรนด์พรีเซนเตอร์คู่แรกของ พันธุ์ไทย ในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก เมื่อปี 2555
ทำให้ เรื่องราวของกาแฟสัญชาติไทยรายนี้ ท็อปฟอร์มติดหน้าฟีดโซเชียลมีเดียตลอดหลายวันที่ผ่านมา และนี่เป็นการตอกย้ำ ว่า กาแฟพันธุ์ไทย ต้องการจะขยายฐานลูกค้าคนเจนใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับ Real User มากขึ้น
เจาะประวัติ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย นับเป็น 1 ในธุรกิจ Non-Oil ภายใต้เครือกลุ่มธุรกิจ PTG หรือ ปั๊มน้ำมัน PT ที่เรารู้จักกัน โดยร้านกาแฟพันธุ์ไทยเปิดตัวสาขาแรกที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วงปี 2555
ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ จนอาจเรียกได้ว่า ขายความ “คลั่งชาติ” เป็นหลัก เพราะปั้นความแข็งแกร่งของแบรนด์ ผ่านเสน่ห์ความเป็นไทย ในทุกกระบวนการผลิตตั้งแต่ การใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ที่บ้างก็หาทานได้ยากแล้วจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย มารังสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มและจำหน่ายภายใต้กาแฟพันธุ์ไทย
ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลดอกมะพร้าวจากอัมพวา ตาลโตนดของดีจากสงขลา มีกลิ่นหอม หวาน ละมุน และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มาเนรมิตเป็นกาแฟโตนด ชาไทยโตนด และนมสดโตนด นมข้าวโพดจากไร่สุวรรณ อำเภอปากช่อง มารังสรรค์เป็นเมนูโพดจุกใจ
รวมถึงการนำ มะม่วงเบาพันธุ์ใต้แท้จากจังหวัดสงขลา มาส่งมอบเมนูสุดสร้างสรรค์อย่าง ม่วงเบากาแฟ ด้วย จากทำให้หลายๆเมนูเครื่องดื่ม ได้รับความนิยม จากนักดื่มทุกวัน ทั้งที่เป็นคอกาแฟ และไม่ใช่คอกาแฟ
ปัจจุบัน ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ฐานลูกค้า 23 ล้านคน ภายใต้จำนวนสาขา ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในปั๊มและนอกปั๊ม พื้นที่ชุมชน และ แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ มากถึง 1,000 สาขา จนติดอันดับแบรนด์กาแฟที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะปีนี้ ตั้งเป้า ครองส่วนแบ่งตลาดกาแฟไทย ด้วยจำนวนกว่า 1,300 สาขา ภายใต้เป้าหมายใหญ่ อีก 3 ปี ข้างหน้า จะถูกขยายสาขาให้ครบ 5,000 สาขา ทั่วประเทศ
ด้วยรสชาติกาแฟไทยแท้ๆ รสชาติกลมกล่อม คุณภาพดี และ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จากการใช้ กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าจากไร่กาแฟบน ดอยสะเก็ด เท่านั้น ทำให้กาแฟพันธุ์ไทย เป็นที่นิยม และ เดินหน้าสร้างรายได้ให้กับ PTG ในสัดส่วนที่สูง และปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่สูงถึง 2,600 ล้านบาท
และหากจะสกัดกลยุทธ์ เบื้องหลังความสำเร็จของกาแฟพันธุ์ไทย อีกประการได้นั้น ก็คือ การที่ขายในราคาไม่แพง ซึ่งมาจากการที่พันธุ์ไทยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้มีต้นทุนต่ำ ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้
กลยุทธ์คลั่งชาติ กับโมเดลธุรกิจของกาแฟพันธุ์ไทย ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจาก 1 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา กาแฟพันธุ์ไทย ประกาศเปิดตัว พรีเซนเตอร์คู่แรกในรอบ 12 ปี “คัลแลน-พี่จอง” ยูทูปเบอร์สายท่องเที่ยวสัญชาติเกาหลี ที่คลั่งรักไทย และเป็นตัวแทนนักดื่มกาแฟตัวยง ผ่านประโยคยอดฮิต “อเมริกาโน ไม่หวาน 2 แก้วครับ” ซึ่งปัจจุบันคัลแลน พี่จอง มีผู้ติดตามเกือบ 3 ล้านในยูทูบ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าประโยคดังกล่าว ถูกเปลี่ยนเป็น “ไทยริกาโน ไม่หวาน 2 แก้วครับ”
นี่เป็นครั้งแรกของพันธุ์ไทยที่มีการใช้กลยุทธ์ Fandom Marketing ในการขยายฐานไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านการหา Brand Presenter ที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสาร ได้ลงตัวและชัดเจนที่สุด อีกทั้ง ยังให้ภาพของการมีส่วนร่วม หัวใจของการทำการตลาดยุคใหม่ ที่จะสร้างความเชื่อใจได้ พรีเซนเตอร์ ต้องเป็น Real User หรือ Big Fan ตัวจริง มาก่อน
กาแฟอาราบิก้า คั่วกลาง สัญชาติไทย Specialty Coffee “เมนู ไทยริกาโน” จึง Matching ความเป็นคัลแลน-พี่จอง มากที่สุด ด้วยการต้องการขายแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพราะแม้ คู่หูคนดัง จะเป็นคนสัญชาติเกาหลี แต่ในเวลานี้ จะหาใครที่จะแสดงออกถึงความคลั่งรักประเทศไทยได้มากกว่านี้ ?
เนื่องจากทั้งคู่มักถ่ายทอดเรื่องราวความงดงามของประเทศไทยในแง่มุมต่างๆ ในแบบฉบับที่คนไทยบางคน ยังไม่รู้จัก หรือ ไม่เคยรับรู้มาก่อนด้วยซ้ำ จนสร้างปรากฎการณ์ใจฟู และ สร้างนักดื่มกาแฟหน้าใหม่ไปพร้อมๆกัน
สำหรับการเปิดตัว Brand Presenter ในครั้งนี้ นอกจากพันธุ์ไทยจะสร้างการรับรู้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ จำนวนมากขึ้นแล้วผ่าน ไวรัล เข้าร้านกาแฟพันธุ์ไทยถ่ายรูปข้าง Standy คู่หู คัลแลน-พี่จอง จนเป็นเทรนด์ฮิตในโซเชียลมีเดียแล้ว ยังทำให้ กาแฟพันธุ์ไทย อาจก้าวเข้าสู่ “Brand Love” ในหมู่ผู้บริโภคได้อีกด้วย
ที่มา : punthaicoffee,พีทีจี
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney