ถึงเวลา SC Asset หรือ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แถวหน้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้เป็น Living Solution Provider และอยู่เบื้องหลังการสร้างเช้าที่ดีมายาวนานกว่า 20 ปี สำหรับการโอบรับความหลากหลายทางธุรกิจ สู่อนาคตที่สดใส การเติบโตที่ยั่งยืน แข็งแกร่ง และมีสมดุล
เริ่มเดินทางสู่น่านน้ำใหม่ที่สดใสด้วยเรือธงธุรกิจใหม่ SCX Corporation หรือ เอสซี เอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด ที่มุ่งมั่นตั้งใจปั้นเป็น ‘Lifestyle Solution Provider’ คาดสร้างรายได้มากกว่า 25% ให้กับกลุ่มธุรกิจ SC Asset (เอสซี แอสเสท) จากธุรกิจ Recurring Income หรือ ธุรกิจสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ กับการลงทุนในธุรกิจที่มีอนาคตสดใสและแข็งแกร่ง อันได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ มั่นใจสร้างความยั่งยืนให้ทั้งธุรกิจ พร้อมด้วยสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามพันธกิจ SCero Mission (ซีโร่มิชชั่น) ของ SC Asset เพื่อตอกย้ำถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
รชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซี เอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า SCX Corporation หรือ เอสซี เอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะช่วยเสริมความยั่งยืนให้ SC Asset ผ่านการสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ หากย้อนกลับไปในปี 2017-2018 รายได้หลักของกลุ่ม SC Asset จะอยู่กับธุรกิจที่อยู่อาศัยเป็นหลัก แต่เมื่อผ่านวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในช่วงปี 2019 จึงได้พบว่าเราควรมีสัดส่วน Portfolio จากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) หรือธุรกิจ ‘Engine2’ มากกว่านี้ เพื่อตอบโจทย์ความยืดหยุ่นให้กับองค์กรผ่านการสร้างที่มาของรายได้ที่มีมากกว่า 1 ทาง เพราะหากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งประสบปัญหาก็จะยังมีอีกธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้
“เดิม SC Asset (เอสซี แอสเสท) ได้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ หรือ Recurring Income มาก่อนแล้วนั่นคือธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าและธุรกิจโรงแรม โดยมีสัดส่วนกำไร (EBITDA) อยู่ที่ 15% โดยจากนี้ SCX Corporation ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไร (EBITDA) จากธุรกิจ Recurring Income เป็น 25-30% ภายในปี 2029 จาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า (SCX Logistic Solutions) ธุรกิจโรงแรม (SCX Hospitality Solutions) และธุรกิจอาคารสำนักงาน (SCX Working Solutions)”
Living Solution Provider สู่การเป็น Lifestyle Solution Provider
“จริงๆ เมื่อปี 2019 ที่เราเริ่มสร้างดำเนินการธุรกิจโรงแรม เราเองก็ยังหาตัวตนกันไม่เจอ จนกระทั่งเราทำไปเรื่อยๆ ก็พบว่าสิ่งที่เรามอบให้กับลูกค้ามักจะเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตหรือ Lifestyle ของลูกค้าเสมอ เช่น คนเราตื่นนอนมาในทุกๆ เช้า ก็ต้องไปทำงานที่ออฟฟิศ สมัยนี้ถ้าอยากซื้อของ การชอปปิงออนไลน์ก็กลายเป็นตัวเลือกต้นๆ หรือแม้กระทั่งในวันหยุดพักผ่อน หากเราไปเที่ยวก็ต้องใช้งานโรงแรม ดังนั้นทุกอย่างคือไลฟ์สไตล์ครับ เอสซี แอสเสท เรามอบปัจจัยพื้นฐานอย่างบ้านให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว เอสซีเอ็กซ์ จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าเอง” รชฎ กล่าว
3 ธุรกิจหลัก ตอบโจทย์เป้าหมาย Lifestyle Solution Provider
3 ธุรกิจหลักที่จะเติมเต็มทั้งไลฟ์สไตล์ของผู้คน และสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับกลุ่ม SC Asset จะเน้นลงทุนไปกับธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคง และตอบโจทย์เป้าหมายการเป็น Lifestyle Solution Provider อันได้แก่
● ธุรกิจอาคารสำนักงาน (SCX Working Solutions) ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘การทำงาน’ เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของเราทุกคน ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าจาก เอสซีเอ็กซ์ จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนยุคใหม่ ทุ่มงบกว่า 1,400 ล้านบาท ปรับปรุงและพัฒนาอาคารสำนักงานที่ดำเนินธุรกิจอยู่ให้ทันสมัยและเป็นสากลยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนยิ่งขึ้น ปัจจุบัน เอสซีเอ็กซ์ มีอาคารสำนักงานให้เช่า 6 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 120,000 ตารางเมตร โดยมีอัตราให้เช่ามากกว่า 90% ซึ่งมีจุดแข็งคือการเป็นผู้เล่นในธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่ามาเป็นเวลานาน ทำให้มีทั้งข้อมูลเชิงลึก ความใกล้ชิด และความชำนาญในการบริการลูกค้าทำให้สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
● ธุรกิจโรงแรม (SCX Hospitality Solutions) เมื่อการเดินทางท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เอสซีเอ็กซ์ จึงมุ่งมั่นเติมเต็มวิถีชีวิตนี้ผ่านธุรกิจโรงแรมและบริการ โดยเน้นสร้างประสบการณ์พักอาศัยที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วคือ โรงแรมย่านราชวัตร (YANH Ratchawat) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 2 แห่ง ได้แก่ KROMO, Curio Collection by HILTON และ The Standard Pattaya Jomtien เจาะตลาดทั้งกลุ่มลูกค้าทั้งท่องเที่ยวและธุรกิจ ตั้งเป้าพัฒนาโรงแรมใน 4 ทำเลท่องเที่ยวศักยภาพสูง กรุงเทพฯ, พัทยา, สมุย, และภูเก็ต คาดภายในปี 2029 จะมีจำนวนห้องพักรวมมากกว่า 2,300 ห้อง รับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
● ธุรกิจคลังสินค้า (SCX Logistic Solutions) ที่จะเข้ามาตอบโจทย์วิถีการชอปปิ้งของคนยุคใหม่ รับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจคลังสินค้าจากเอสซีเอ็กซ์ มีความโดดเด่นในเรื่องทำเลซึ่งมอบความสะดวกในการขนส่งและมาตรฐานอาคารที่สูงกว่าคู่แข่ง อีกทั้งยังมุ่งมั่นในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
โดยเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและสังคมในอนาคต เสริมความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่มีความรู้และประสบการณ์จากธุรกิจแม่ อย่างเช่น “รู้ใจแอป” (RueJai App) ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ด้านบริการและโซลูชั่นสำหรับโรงงานและคลังสินค้า
โดย เอสซีเอ็กซ์ ตั้งเป้าพัฒนาอาคารคลังสินค้าให้เช่า บนทำเลศักยภาพไม่ว่าจะเป็น บางนา, EEC และ อยุธยา-วังน้อย คาดภายในปี 2029 จะมีพื้นที่เช่ารวม 700,000 ตร.ม.
และนอกเหนือจากการสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับองค์กรแล้ว SCX Corporation ยังได้ริเริ่ม Zero Carbon Emission Program ในทุกส่วนของธุรกิจอย่างจริงจังเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และโลก ด้วยแผนงานที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาอาคารสีเขียว (Green Building) การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคาร ซึ่งที่ผ่านมา SC Asset ก็ได้คว้ารางวัลดีเด่น ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารเขียว ในงาน Thailand Energy Awards 2023 ซึ่งสะท้อนความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้ #SCeroMission
ทั้งนี้ การประกวด Thailand Energy Awards นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดให้มีการแข่งขันทางด้านอนุรักษ์พลังงานและด้านการพัฒนาทดแทน ที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป้าหมายการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำและยั่งยืน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
อีกทั้งยังมุ่งเน้นการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำถึงความรับผิดชอบและการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เป็นรูปธรรม ภายใต้พันธกิจ SCero Mission ของ SC Asset ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจในการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ
ด้วยความมุ่งมั่นในการวางกลยุทธ์และออกแบบธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ SCX มั่นใจว่า ภายในปี 2029 องค์กรจะสามารถสร้างกำไรจากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของกำไรรวมทุกกลุ่มธุรกิจของ SC Asset และจะสามารถสะสมมูลค่า Assets Portfolio ได้สูงถึง 40,000 ล้านบาท จาก 3 ธุรกิจหลักข้างต้นพร้อมส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพระดับมืออาชีพที่มีมาตรฐานสูงพร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการเป็นมิตรต่อโลก
วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จที่มั่นคง
รชฎ กล่าวเสริมว่า เพื่อการเติบโตไปข้างหน้า เอสซีเอ็กซ์ ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่การเติบโตของผลกำไร เพราะเราต้องการให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ลูกค้า พาร์ทเนอร์ เติบโตไปพร้อมกันกับ “People” จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก เนื่องจากเราไม่อยากทิ้งโลกที่ไม่ดีไว้ให้คนรุ่นหลัง ฉะนั้นการเดินไปข้างหน้าขององค์กรจึงต้องดำเนินควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ นั่นคือ ‘Planet’ และท้ายที่สุดผลกำไรก็จะตอบกลับมาที่องค์กรของเราเป็น ‘Profit’ โดยผลกำไรก็จะหมุนวนกลับไปสร้างผลประโยชน์ให้กับ ‘People’ และ ‘Planet’ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน”
ภายใต้วิสัยทัศน์ “The Prospering Expedition” ที่สะท้อนการเดินทางอันรุ่งโรจน์ และพันธกิจ “The Way Forward” ที่มุ่งมั่นในการแสวงหาความเป็นไปได้ทางธุรกิจใหม่ ๆ SCX Corporation ได้เปรียบเสมือนฝูงนกกระเรียนที่มุ่งหน้าสู่น่านน้ำใหม่เพื่อเสาะหาโอกาสแห่งความเจริญรุ่งเรืองและการเติบโต
สัญลักษณ์นี้แสดงถึงความพร้อมของ SCX ในการมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ โดยมีทีมงานที่เปี่ยมด้วยทักษะ ความเชี่ยวชาญ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทั้งแรงสนับสนุนจากบริษัทแม่ที่มั่นคงอย่าง SC Asset
อีกทั้ง เอสซี เอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยังเชื่อในการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันกับทุกภาคส่วน ผ่านการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักการ “3P” สะท้อนถึง People, Planet และ Profit เพราะการเติบโตอย่างยั่งยืนคือการให้คุณค่ากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในธุรกิจทุกมิติ
ดังนั้นในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความท้าทาย SCX Corporation เชื่อมั่นว่าความยืดหยุ่นและความหลากหลายทางธุรกิจคือกุญแจสำคัญที่จะสร้างความมั่นคง ความแข็งแกร่งและความสมดุลให้กับองค์กร การดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) หรือการมุ่งมั่นสู่การเป็น "Lifestyle Solution Provider" คือ การออกเดินทางครั้งใหม่สู่โอกาสสดใสและอนาคตที่มั่นคง ไม่ใช่เพียงขององค์กรโดยลำพัง แต่เป็นการร่วมสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนสำหรับผู้คน พาร์ทเนอร์ สังคมและโลก
"เพราะผู้ที่อยู่รอดได้ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หรือฉลาดที่สุดแต่เป็นผู้ที่มีความสามารถในการปรับตัวดีที่สุด" รชฎ กล่าวทิ้งท้าย