NielsenIQ เผยผู้บริโภคชาวไทย 84% มองหารายได้เสริม หลังเศรษฐกิจไม่แน่นอน ค่าครองชีพพุ่ง

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

NielsenIQ เผยผู้บริโภคชาวไทย 84% มองหารายได้เสริม หลังเศรษฐกิจไม่แน่นอน ค่าครองชีพพุ่ง

Date Time: 26 ก.ย. 2567 09:00 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • NielsenIQ (NIQ) บริษัทวิจัยด้านข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค เผยถึงรายงานแนวโน้มผู้บริโภคในประเทศไทยช่วงกลางปี 2567 ชี้ให้เห็นถึงมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย หลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น พบ 84% เร่งมองหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ

Latest


รายงานของ NielsenIQ (NIQ) ล่าสุด เปิดเผยให้เห็นแนวโน้มที่เป็นจุดเด่นว่า ผู้บริโภคชาวไทยถึง 84% กำลังแสวงหาแหล่งรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ การเพิ่มขึ้นในจุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการผลักดันให้ประเทศมีความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางตัวเลขการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 

ในขณะที่ 29% ของผู้บริโภคได้รายงานว่าสถานะทางการเงินของตนนั้นดีขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 24% แต่มีผู้บริโภคถึง 35% ยังรู้สึกว่าสถานะทางการเงินของตนแย่ลง ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นจาก 48% ในช่วงต้นปีก็ตาม 

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ เนื่องจากผู้บริโภคถึง 36% ได้แสดงถึงความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 32% เมื่อปีที่แล้ว

คนไทยรัดเข็มขัด ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย

แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคชาวไทย 43% เชื่อว่าความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวยังคงไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้จะมีความระมัดระวังมากขึ้นในการใช้จ่าย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

และเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านต้นทุน ผู้บริโภคชาวไทย 45% เลือกที่จะซื้อของออนไลน์เพื่อรับข้อเสนอที่ดีกว่า ลดการเดินทาง ประหยัดค่าน้ำมัน โดยที่การเปลี่ยนแปลงนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสะดวกสบายและความสามารถในการตัดสินใจใช้จ่ายของผู้บริโภค

เนื่องจากงบประมาณครัวเรือนตึงตัว ผู้บริโภคชาวไทย 25% จึงเปลี่ยนมาซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากต้นทุนต่อการใช้งานที่ลดลง นอกจากนี้ 80% ของผู้บริโภคมีความชื่นชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้มีราคาจับต้องได้มากที่สุด ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสที่ธุรกิจต่างๆ จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยโซลูชันที่คุ้มต้นทุน

เกินครึ่ง ยินดีจ่ายเงินหากได้สินค้าที่ทนทาน

รายงานได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของมูลค่าระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้บริโภค 76% ยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ทนทานกว่า เพื่อลดความจำเป็นในการเปลี่ยนบ่อยครั้ง นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ภายในบ้านมากกว่าความบันเทิงภายนอก ซึ่งเน้นย้ำถึงความชอบในการทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านเพื่อลดต้นทุนโดยรวม

นอกจากนี้ การใช้จ่ายด้านสุขภาพก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย 74% ที่มีการเพิ่มการใช้จ่ายในวิตามินและอาหารเสริมเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่โดยรวม แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางต้นทุนการดูแลสุขภาพและการตระหนักรู้เกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้นด้วย

อิทธิพลของโซเชียลมีเดียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อิทธิพลของโซเชียลมีเดียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคชาวไทย 76% ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 46% อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ผู้บริโภค 22% ชอบใช้อุปกรณ์อัจฉริยะ อาทิ ตู้เย็นที่มีเซ็นเซอร์ เพื่อช่วยจัดการและเติมสิ่งของในครัวเรือนโดยอัตโนมัติ ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มของการบริโภคที่เน้นความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น

แนวโน้มที่ต้องจับตาในอนาคต

ทั้งนี้ในปี 2568 มีการคาดการณ์ว่าผู้บริโภคชาวไทย 1 ใน 3 จะเลือกซื้อของทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้แนวโน้มการค้าปลีกเปลี่ยนแปลงไปด้วย 

สำหรับธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จในตลาดที่เปลี่ยนแปลงนี้ การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงให้แก่ผู้บริโภคและการเสนอข้อเสนอในหลายๆ วิธี ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ เมื่อการฟื้นตัวของผู้บริโภคดำเนินไปอย่างช้าๆ ผลิตภัณฑ์ที่มอบทั้งความคุ้มค่า คุ้มราคา และนวัตกรรม มีแนวโน้มที่จะสามารถดึงดูดความภักดีของผู้บริโภคในระยะยาวได้

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ