หลังจาก “กลุ่มคาราบาว” ในฐานะผู้บุกเบิกโรงเบียร์ไมโครบริวเวอรี่ ภายใต้ชื่อโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และเจ้าตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง เปิดตัวเบียร์ 2 แบรนด์ คือ แบรนด์คาราบาว 2 รสชาติ ได้แก่ ลาเกอร์ (Lager Beer) และดุงเกล (Dunkel Beer) ขณะที่แบรนด์ตะวันแดง เปิดตัว 3 รสชาติ ได้แก่ ไวเซ่น (Weizen Beer) โรเซ่ (Rosé Beer) และ IPA (ไอพีเอ)
นับเป็นครั้งแรกของวงการเบียร์ในประเทศไทยที่มีการเปิดตัวถึง 5 รสชาติพร้อมกัน และมีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม “ทางเลือก” ให้กับคนไทยสามารถเข้าถึงเบียร์มาตรฐานระดับโลก เปิดประสบการณ์ให้คนไทยได้รู้จักและสัมผัสกับเบียร์หลากหลายประเภท นอกเหนือจาก “เบียร์ลาเกอร์” ซึ่งเป็นรสชาติที่ครองตลาดเบียร์ในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน แต่ในความเป็นจริงบนโลกใบนี้กลับไม่ได้มีแค่ “ลาเกอร์” ยังคงมีเบียร์อีกมากมายให้เราได้ค้นหา
ดังนั้นเพื่อตอกย้ำเป้าหมายดังกล่าว ล่าสุด “เสถียร เสถียรธรรมะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “กลุ่มคาราบาว” ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์คาราบาว และเบียร์ตะวันแดง จึงได้ถอดลุคมาดนักธุรกิจ สู่ “กูรู” ที่จะแนะนำให้คนไทยได้รู้จักรสชาติของเบียร์อีกหลากหลายที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ผ่านการ “เปิดจักรวาลเบียร์” ที่เยอรมนี ประเทศต้นตำรับของเบียร์ที่ทุกคนยอมรับในเรื่องรสชาติ และมาตรฐานการผลิต
พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับเบียร์ในแต่ละประเภทในประเทศเยอรมนี แต่ละตัวมีความแตกต่างด้วยรสชาติ รสสัมผัส สีสัน และเรียนรู้วัฒนธรรมการดื่มเบียร์ที่ฝังรากลึกของคนเยอรมัน ผ่านคลิปวิดีโอเป็นตอน ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ และความเข้าใจเรื่องเบียร์ของคนไทย พร้อมกับยกระดับประสบการณ์การดื่มเบียร์ของคนไทยในระยะยาว ภายใต้ชื่อรายการที่มีชื่อว่า "เปิดจักรวาลเบียร์กับพี่เถียร" ทาง YouTube: Carabao Tawandang Beverage
โดยระบุว่า ตลาดเบียร์ในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใหญ่ที่สุด แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมามีรายใหญ่เพียงไม่กี่แบรนด์ครองส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกว่า 90% ซึ่งต่างนำเสนอ “เบียร์ลาเกอร์” ให้กับนักดื่มคนไทยมาโดยตลอด
ขณะที่ทั่วโลกนี้ เฉพาะที่เยอรมนีแค่ประเทศเดียว พบว่ามีบริษัทที่ผลิตเบียร์มากกว่า 1,500 บริษัท มีการผลิตเบียร์ออกมามากกว่า 5,000 ฉลาก ซึ่งคนเยอรมันเคยกล่าวว่า ดื่มเบียร์ไม่ซ้ำฉลากทุกวันติดต่อกัน 15 ปีก็ยังดื่มไม่ครบเลย สะท้อนให้เห็นว่านี่คือความหลากหลายของเบียร์ในเยอรมนีนั่นเอง
“ที่ผ่านมา ตลาดเบียร์เมืองไทยมีรายใหญ่เพียงไม่กี่แบรนด์ ซึ่งครองตลาดกว่า 90% ไม่แปลกที่คนไทยจะรู้จักเฉพาะเบียร์ลาเกอร์ และไม่ได้มีทางเลือกในการลิ้มลองเบียร์รสชาติอื่น ๆ เนื่องจากมักเป็นเบียร์นำเข้าที่มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้โอกาสเข้าถึงมีน้อย”
เสถียร กล่าวต่อไปว่า จากเหตุผลดังกล่าว เป็นสาเหตุที่เมื่อ “กลุ่มคาราบาว” ตัดสินใจรุกเข้าสู่ตลาดเบียร์ จึงเลือกเปิดตัวเบียร์พร้อมกันถึง 5 รสชาติ ทำเบียร์ที่แตกต่างหลากหลาย เพื่อนำเสนอเบียร์คุณภาพระดับโลก ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ลิ้มลอง
“เราเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะได้ลิ้มลองเบียร์ทางเลือกใหม่ ต้นตำรับจากเยอรมนีที่แตกต่างจากท้องตลาด เพื่อเปิดโลกใหม่ให้กับนักดื่มคนไทย ที่สำคัญเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้คนไทยได้รับรู้ว่า ในโลกนี้ไม่ได้มีแต่เบียร์ลาเกอร์”
นับว่าเป็นเกมที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับการทำ “Brand Differentiation” ของ “กลุ่มคาราบาว” ที่สร้างความต่างของสินค้า ให้โดดเด่นกว่าสินค้าแบบเดียวกัน ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการติดสปอร์ตไลท์ให้กับแบรนด์ได้ส่องสว่างกว่าคนอื่น เพื่อเฉิดฉายในสมรภูมิรบเลยก็ว่าได้
เพราะเจ้าตลาดที่อยู่ในตลาดเบียร์ก่อนหน้านั้น ก็ดูเหมือนกับว่าไม่ใช่รายเล็ก ๆ แถมยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่อย่าง “กลุ่มคาราบาว” ที่จะต้องสร้างความต่าง และโดดเด่น ฉีกกฎเดิม ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นว่า เบียร์ในประเทศไทยนั้นไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในกรอบ แต่กลับเปิดกว้างมากกว่าที่คิด และไม่ได้มีแค่ “ลาเกอร์” เท่านั้น
แม้ว่าลาเกอร์จะเป็นเบียร์ที่คนเข้าถึงได้ง่ายและคุ้นเคยกันที่สุด เพราะดื่มง่าย สดชื่น มีรสชาติอ่อนถึงปานกลาง ไม่ซับซ้อน นุ่มละมุนลิ้น แต่การได้สัมผัสถึงความหลากหลายก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ไม่เช่นนั้นบนโลกนี้คงไม่มีเบียร์เป็นพัน ๆ รสชาติ
ดังเช่นที่แม่ทัพคาราบาวกรุ๊ป “เสถียร เสถียรธรรมะ” ได้พลิกบทบาทมาสวมบทกูรูเบียร์ พาคนไทยเปิด “จักรวาลเบียร์” ถึงถิ่นต้นกำเนิดอย่างเยอรมี เพื่อตอกย้ำว่า “โลกนี้ไม่ได้มีแค่ลาเกอร์” ก็พอจะทำให้ทุกคนได้รู้แล้วว่าเราสามารถรับรส “เบียร์” ได้อีกเป็นพัน ๆ แบบ
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney