โตชิบาในประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาบุกเบิกทำตลาดในประเทศไทย จนได้รับการยอมรับและมีความเชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อโตชิบา คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นได้ขายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้กับ “ไมเดีย กรุ๊ป” ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำสัญชาติจีน เพื่อทำการตลาดในผลิตภัณฑ์ไปทั่วโลก ซึ่งในช่วงแรกเกิดความสับสนจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของแบรนด์
แต่ในช่วงที่ผ่านมาไมเดียนับว่าสามารถรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ญี่ปุ่นไว้ได้ อีกทั้งได้นำเทคโนโลยีและทรัพยากรขั้นสูงมาผสาน ทำให้การใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับในแบรนด์โตชิบา ในด้านนวัตกรรม คุณภาพ ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือไว้ได้
จวบจนปัจจุบันในปีนี้ โตชิบา ไทยแลนด์ ครบรอบ 55 ปี ซึ่งได้เริ่มเฉลิมฉลอง จัดแคมเปญทางการตลาดเข้าถึงผู้บริโภคมาต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การตลาด 360 องศา เข้าถึงลูกค้าได้ในทุกช่องทาง ทำให้แบรนด์สามารถสร้างการรับรู้และความผูกพันกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินการเติบโตในระดับสูงเฉลี่ยถึง 12% มา 5 ปีติดต่อกัน
หรือแม้กระทั่งในปีนี้ได้แถลงผลการดำเนินการในครึ่งปีแรก ยอดขายมีอัตราเติบโตสูงถึง 26% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงมากกับกำลังซื้อของคนไทยหดหายไปมากจากผลกระทบสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ย่ำแย่ จากทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ เครื่องซักผ้า เติบโตมากถึง 47% กลุ่มไมโครเวฟ เติบโตถึง 19% กลุ่มตู้เย็น 15% และกลุ่มเครื่องปรับอากาศ เติบโตสูงถึง 103%
ผู้บริหารระดับสูงที่นำโดย กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร และ มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ให้เหตุผลว่าการเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า มีการปรับเปลี่ยนระบบซัพพลายเชน มีไลน์สินค้ามากในปีนี้จะมีการเปิดค้าสินค้าใหม่ถึง 41 รุ่น การเพิ่มฐานการผลิตส่วนหนึ่งจากจีนเข้ามาไทยทำให้มีความได้เปรียบ ด้านราคา การจัดโปรโมชัน รวมถึงความเชื่อมั่น ในแบรนด์และผลิตภัณฑ์โตชิบาที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ
ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี การเพิ่มพนักงานขายหน้าร้านประมาณ 20% และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเพื่อปรับแนวทางการบริหารให้เหมาะสม รวมถึงปรับโฉมหน้าร้านให้สวยงามทันสมัย การให้ความสำคัญของตัวแทนจำหน่ายทั้งตัวแทนจำหน่ายแบบดั้งเดิมและในปัจจุบันเพื่อการเติบโตไปด้วยกัน
ขณะที่แคมเปญการตลาดที่รุกเข้าหากลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น โดยได้เริ่มดำเนินการมา 2 ปี จากเดิมลูกค้าที่เติบโตมาพร้อมกับแบรนด์โตชิบาจะมีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป แต่เมื่อสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจะต้องเข้าหากลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้นและกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 28-30 ปีเริ่มรู้จักจะทำการตอกย้ำด้วยการโปรโมตผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก โดยใช้ “หมาก ปริญ” เป็นคีย์หลักในการเผยแพร่ มีการทำดิจิทัลมาร์เกตติ้งอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตัวผลิตภัณฑ์ทางโตชิบาจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์พรีเมียมให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น มีเป้าหมายให้สัดส่วนถึง 50% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เข้าถึงผู้บริโภคระดับกลางถึงสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจ โดยแผนในครึ่งปีหลังคือ การเปิดตัวตู้เย็นซีรีส์ใหม่ JAPANDI ดีไซน์มินิมอลสีขาวเรียบหรู Fuji White และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านพรีเมียมอีกมากมาย
ด้วยประสบการณ์ในไทยกว่า 55 ปี โตชิบาได้รักษามาตรฐานของแบรนด์ญี่ปุ่น พร้อมผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย นำเสนอผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และการปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสมัย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาและการเติบโตอย่างยั่งยืนของโตชิบาในไทย.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตลาดนัดหัวเขียว” เพิ่มเติม